‘มีชัย’ รับ ผบ.เหล่าทัพดูแลยุทธศาสตร์ชาติ เป็นหลัก ทำให้บ้านเมืองเดินหน้า

“มีชัย” รับ กฤษฎีกา ทำทางบิ๊กกองทัพควบเก้าอี้ ซูปเปอร์บอร์ดยุทธศาสตร์ – ส.ว.” ให้ทำหน้าที่ประสานงาน

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 28 เมษายน ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึง ข้อสังเกตในอำนาจของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จะอยู่เหนือรัฐบาลเลือกตั้ง ว่า อะไรที่อยู่ในแนวนโยบายแห่งรัฐ รัฐบาลก็ต้องทำตาม อะไรที่ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญก็สามารถดำเนินการได้ ตราบที่ไม่ริดรอนสิทธิคนอื่น การสร้างกลไกบริหารประเทศเป็นหน้าที่รัฐบาล ในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ว่ารัฐบาลต้องมีนโยบายการบริหารอย่างไร อย่างบัตรทองก็ไม่มีเขียนไว้ แต่รัฐบาลก็สามารถทำได้ สำหรับการตรวจสอบหากใครไม่ปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาตินั้น ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ว่า ใครหรือหน่วยงานใดไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ศาล หรือป.ป.ช. ก็จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ กฎหมายทุกฉบับที่ออกต่อไปนี้จะถือเป็นการปฏิรูป หากหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามต้องมีโทษ ไม่แตกต่างไปจากราษฎร

“ครม.ใหญ่กว่ายุทธศาสตร์ชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่า ครม.จะทำอะไรตามชอบก็ได้ อำนาจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ หากคิดว่า ยุทธศาสตร์ชาติไม่ดีก็ไปเปลี่ยน หากคิดว่ามันล้าสมัยก็แก้” ประธานกรธ.กล่าว

เมื่อถามถึง การปรับแก้ร่างกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติจากสปท. เพิ่มให้มี 6 ผู้นำเหล่าทัพ นั่งเป็นคณะกรรมการโดยตำแหน่งในชั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำให้เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ เพราะควบตำแหน่งข้าราชการประจำ ส.ว. และกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ นายมีชัย กล่าว่า ที่ต้องมีเพราะ บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญให้มี ผู้นำเหล่าทัพ 6 ตำแหน่งเป็นส.ว. 5 ปี เพื่อดูแลยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงให้เข้ามาเป็นกรรมการ เพื่อจะได้รู้กระบวนการตั้งแต่ต้น โดยคนกลุ่มนี้จะเป็นหลักที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าดูแลให้ยุทธศาสตร์เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งข้าราชการก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ที่จะคอยมาช่วยกำกับการเดินหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ กองทัพเขามีกำลังพลเพียงพอในการช่วยรัฐบาล และไม่ได้หมายความว่า กองทัพจะมีอำนาจมากที่สุด เพราะมีแค่ 6 คน จากคณะกรรมการตามตำแหน่งทั้งหมด 30 คน ผู้นำเหล่าทัพ 6 คน จะทำนหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างกรรมการกับส.ว. สุดท้ายยังไงนายกฯก็ยังมีอำนาจมากกว่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image