“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดี เมื่อวันที่ 28 เมษายน สรุปสาระสำคัญดังนี้
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า จากกรณีที่เมื่อตอนหาเสียงเลือกตั้งนายกสมาคมฯ นั้นเคยออกปากไว้ว่าจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้กับทีมในไทยลีก 3 และไทยลีก 4 จำนวน 1 ล้านบาท แต่ต้องระงับเอาไว้ก่อนนั้น เนื่องจากเหตุผลที่สมาคมฯ ขาดสภาพคล่องเรื่องการเงิน จากหนี้สินที่ตกทอดมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของสมาคมฯ ชุดก่อน รวม 355,145,964.85 บาท ซึ่งคาดว่าภายในปี 2560 นั้นจะสามารถทำตามที่สัญญาให้ได้
“กรณีที่บอกกว่าการไปสัญญาว่าจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้สโมสรนั้นเป็นการติดสินบน จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะถ้าหากจะทำการติดสินบน ก็เลือกให้เฉพาะทีมที่มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้นพอ แต่นี่คือต้องการสนับสนุนให้ทุกทีม เพราะว่าการพัฒนาฟุตบอลจำเป็นต้องใช้เม็ดเงิน เมื่อสมาคมมีรายได้มากขึ้น ก็จะนำเอารายได้นั้นไปดูแลสโมสรสมาชิก อย่างไรก็ตามหากมีการทักท้วงว่าการกระทำนี้เป็นการซื้อเสียง ก็คงจะต้องนำเรื่องนี้มาคิดใหม่ และอาจจะไม่เพิ่มเงินสนับสนุนให้แล้ว”
“บิ๊กอ๊อด” กล่าวต่อว่า ช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น มีผู้เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือจำนวนมาก ซึ่งมีคนที่แฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง นาย ม. กับนาง ญ. ซึ่ง พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผู้ชักชวนตนเข้ามาแนะนำเพราะบอกว่าเป็นอริกับกลุ่มเก่า ซึ่งนาย ม. เข้ามาเพื่อช่วยสโมสรจนเองที่ถูกตัดสิทธิ และขอเป็นประธานภูมิภาค ขณะที่นาง ญ. อยากเป็นเลขาธิการสมาคมฯ และอยากมีตำแหน่งในฟีฟ่า แต่พอไม่ได้รับในสิ่งที่ต้องการ ก็ไปรวมหัวกับทนาย สโมสรที่จะตกชั้น เพื่อต่อรองกับตน จะได้ยุติการเคลื่อนไหวต่างๆ
ที่ประชุมเข้าสู่วาระพิจารณาต่างๆ โดยสมาคมได้แจ้งให้ทราบว่าการออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่คราวนี้ จะใช้ตัวแทนผู้มีสิทธิออกเสียงตามข้อบังคับลักษณะปกครอง พ.ศ. 2558 คือ 72 เสียงที่ทำการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เมื่อปีพ.ศ.2559 ที่ผ่านมา
ส่วนกรณีการระงับสมาชิกภาพของสโมสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด นั้นปรากฎว่ามีผู้ลงคะแนนเสียง 19 จาก 48 เสียงที่มาร่วมประชุมในขณะนั้น ทำให้ยังคงสิทธิสมาชิกภาพของสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ดเอาไว้ โดยเรื่องดังกล่าวสภากรรมการฯ จะนำไปพิจารณาเพื่อหาทางออกให้
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่งนั้น ยอมรับว่ามีแต่เรื่องที่เครียดให้ตัดสินใจบ่อยครั้ง ซึ่งครอบครัวก็อยากให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่ถ้าหากจะลาออกเพราะมีคนชั่วที่ต้องการเข้ามายืนในตำแหน่งตรงนี้นั้น ตนไม่มีทางลาออกอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งสโมสรสมาชิกเห็นว่าตนไร้ประโยชน์ ไม่สามารถทำประโยชน์ได้ก็พร้อมจะไปและตนก็ไม่ได้คิดที่จะสืบทอดอำนาจต่อ ถ้าหากหมดวาระก็พร้อมจะไปเช่นกัน
