ดับเบิ้ล “ลัคกี้” “ทิม-พิธา” เซเลบพันล้าน

นอกจากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว หนุ่มทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เซเลบหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่พันล้านจากธุรกิจน้ำมันรำข้าว ก็ยังประสบความสำเร็จในเรื่องของความรักและครอบครัวด้วย

ล่าสุด จูงมือภรรยาคนสวย “ต่าย-ชุติมา ลิ้มเจริญรัตน์” และ “น้องพิพิม” เข้ารับโล่เชิดชูเกียรติครอบครัวร่มเย็น ประเภทครอบครัวนักธุรกิจ ในงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2560 จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

พิธาเล่าว่า การมีครอบครัวมีลูกไม่มีคนสอนเหมือนการเป็นนักธุรกิจ ที่มีโรงเรียนสอนมีบริษัทให้ทดลอง จึงต้องเรียนรู้ใหม่และปรับตัวอยู่ทุกวัน

คุณพ่อหนุ่ม เล่าเคล็ดลับในการเลี้ยงดูน้องพิพิมวัย 1 ขวบ คือ ‘เป็นตัวอย่างที่ดี-ให้ความเป็นไทย-อยู่กับธรรมชาติ’

Advertisement

พิธาเล่าว่า หากไม่อยากให้เขาก้าวร้าว เราก็ต้องไม่ก้าวร้าว หากอยากให้ลูกอดทน เราก็ต้องอดทน ที่ผ่านมาพยายามทำตัวเองเป็นตัวอย่าง ตั้งแต่การพูดเคยด้วยเหตุผล ไม่ใช้ของสุรุ่ยสุร่าย ใช้ของแล้วเก็บเข้าที่ ทั้งหมดนี้คือการลงทุน เพราะ 3 ขวบปีแรกของเด็ก จะเป็นการสร้างคุณสมบัติ คาแรกเตอร์ของเขาไปตลอดชีวิต จึงควรเป็นช่วงเวลาที่ให้ความสนใจ เอ็นดู ปลูกฝัง ซึ่งต้องใช้ความอดทนและติดตามดูพัฒนาการของเขา หากไม่ทำก็สายเสียแล้ว

“หลายคนมักพูดกับผมให้ส่งลูกไปโตเมืองนอก เรียนโรงเรียนอินเตอร์ ต้องให้ลูกพูดได้ 2-3 ภาษา แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญน้อยกว่าการสอนให้เขามีวินัย ให้รู้จักพอเพียง รับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำได้ ที่ไม่ว่าเขาจะไปเป็นอะไร นั่นคือชีวิตของเขา ซึ่งเป็นเสน่ห์การเลี้ยงลูกแบบไทย”

Advertisement

พิธาเล่าอีกว่า เขายังชอบให้ลูกอยู่กับธรรมชาติ อาทิ ต้นไม้ แสงแดด อย่างวันหยุดเราจะไปต่างจังหวัด พาไปดูนาข้าว ภูเขา ทะเล สถานที่ทางประวัติศาสตร์ หรือไปสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ให้ลูกอยู่กับธรรมชาติเหล่านี้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเขาได้ระบายพลังในตัวออกมาจนเหนื่อย เวลากลับเข้าบ้านก็จะพูดง่ายฟังง่าย ทำอย่างนี้บ่อยๆจะเป็นวัฏจักรที่ดี

การเป็นหัวหน้าครอบครัวได้เปลี่ยนชีวิตนักธุรกิจวัย 37 ปีอย่างมาก จากเป็นคนชอบกินชอบเที่ยว ชอบซื้อของ ทุกวันนี้เขาบริหารจัดการเวลาทุกวินาที เงินทุกบาทอย่างรู้คุณค่า และออกกำลังกาย
พิธาเล่าว่า รู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น จากที่เคยมีเวลาเหลือเฟือทำอะไรอ้อยอิ่ง แต่พอมีลูกต้องบริหารเวลา เดี๋ยวนี้มือถือไม่เล่น จะเที่ยวก็คิดถึงงานและครอบครัว และช่วงนี้พยายามออกกำลังกายไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ หรืออ้วน เพื่อให้สามารถอยู่กับลูกไปได้นานๆ”

“สมัยก่อนเวลาได้เงินมา จะซื้อโน่นซื้อนี่ให้ตัวเอง ตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่มีค่าอะไร อายตัวเองเวลาเข้าห้องไปมีแต่ไม้เทนนิส เสื้อกีฬา สโนวบอร์ด หรืออะไรที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ เข้าใจคำว่าพอเพียงก็วันนี้ รู้สึกว่าต้องอดออมเพื่อลูก ใช้เงินอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากสอนให้ลูกในอนาคตว่าเงินทองไม่ใช่ตกลงมาจากฟ้า หรือหามาได้ง่ายๆ ต้องประหยัด เช่นเดียวกับธุรกิจที่มีกำไรดีก็ใช่ว่าเราจะฟุ่มเฟือย ทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจว่าจะน้อมนำปรัชญาและคำสอนของในหลวง ร.9 มาสอนลูก”

พิธาฝากทิ้งท้ายถึงครอบครัวอื่นๆว่า “ธุรกิจที่ดีก็เหมือนครอบครัวของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างคือความใส่ใจ ความไม่เห็นแก่ตัว เอาลูกค้าหรือภรรยาและลูกเป็นที่ตั้ง แล้วชีวิตจะมีคุณค่ามากขึ้น”

เรียกว่าทั้ง “ลัคกี้ อิน เกม” และ “ลัคกี้ อิน เลิฟ”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image