แฉว่อนหนุ่มออกรายการ ‘เทคมีเอาท์’ โกหกทุกเรื่อง ‘ทีวีธันเดอร์’ รับต่อไปต้องรัดกุม-เตรียมแพร่คลิปสารภาพ

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก Rungroj Rjay Prampipat ได้โพสต์ข้อความแฉพฤติกรรมของแขกรับเชิญหนุ่มคนล่าสุดที่มาออกรายการ “Take Me Out Thailand” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 โดยระบุว่า สิ่งที่เขาพูดผ่านในรายการนั้นเป็นเรื่องที่โกหก ผู้ชายคนนี้มีพฤติพรรมหลอกลวงหลายอย่าง ทั้งรถหรูที่นำไปออกรายการ แท้จริงใช้เงินผู้หญิงไปซื้อ ซ้ำยังใช้กำลังข่มขืนจนท้องและไม่รับผิดชอบ เคยถ่ายคลิปแบล็คเมล์ ทำร้ายผู้หญิงปางตาย รวมถึงแอบอ้างว่าทำงานอยู่ที่แกรมมี่ เคยร่วมงานกับศิลปินดังหลายคน

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก โคตรห้าวv3 ก็โพสต์ว่า ชายคนที่ออกรายการ “Take Me Out Thailand” คนดังกล่าว มีพฤติกรรมต่าง ๆ ตามที่โดนแฉจริง ซึ่งทางเพจยืนยันว่าชายคนนี้มีพฟติกรรมชอบทำร้ายร่างกายผู้หญิง โดยมีภาพที่ผู้เสียหายโดนซ้อมและคลิปเสียงเป็นหลักฐาน

 

Advertisement

ล่าสุด นายภูษิต ไล้ทอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัททีวีธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า ทางรายการได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยหลังจากมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าในแฟนเพจหลังออกอากาศ ชายคนดังกล่าวก็ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับทีมงานว่าเขาให้ข้อมูลไม่ครบเรื่องเขาเคยมีลูกแล้ว ซึ่งทางทีมงานก็ได้อัดคลิปวีดีโอสารภาพดังกล่าวเอาไว้ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการเผยแพร่

“ในรายการของเรา หลายท่านก็มีลูกแล้ว มีครอบครัวแล้ว แต่ก็หย่ากันไป ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าทำไมเขาไม่บอกไม่พูด เราก็เลยอัดคลิปที่เขาบอกว่าเขามีลูกแล้ว รวมถึงการไปซื้อรถร่วมกันกับอดีตภรรยา เรื่องการที่ติดต่อกับครอบครัวของแฟนเขา เขาก็พูดอยู่ในคลิป ซึ่งผมยังไม่เห็น แต่ทีมงานก็แจ้งให้ทราบแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ” นายภูษิต กล่าว

และว่า กติกาของรายการคือ เมื่อผู้ชายเลือกว่าจะไปเดทกับใคร หลังจากนั้นทางทีมงานจะให้เวลาทั้งสองคนได้ทำความรู้จัก พูดคุย ทานข้าวด้วยกัน และสัมภาษณ์ความรู้สึกต่างๆ หลังจากนั้นทั้งสองคนจะคุยกันต่อหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของรายการก็มีเงื่อนไขให้ผู้ร่วมรายการรับทราบและเซ็นรับรองโดยต้องไม่ปกปิดหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง

Advertisement

“จริงๆ เราค่อนข้างเข้มงวดอยู่แล้ว และจะบอกขัดเจนในเงื่อนไขสัญญาว่าห้ามไม่ให้ปกปิดข้อมูล หากพบว่าข้อมูลที่ให้มาผิดพลาดบิดเบือน เรามีสิทธิ์ที่จะงดออกอากาศ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเราก็มีการสัมภาษณ์ซักประวัติ และยังขอเฟซบุ๊กสื่อต่างๆ เพื่อเข้าไปดูว่าเข้ามีพฤติกรรมอย่างไร กับเพื่อนร่วมงาน กับพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่ข้อมูลจะตรงกัน ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน อาจจะมีบ้างที่เขาบอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ แฟนเขาบอกว่ายังไม่ได้เลิก ก็มีบ้าง แต่ว่าไม่ได้รุนแรง”

ส่วนในเรื่องความผิดของชายคนดังกล่าวที่ถูกกล่าวโทษในโซเชียลมีเดีย ยังเป็นข้อกล่าวหาที่มาจากบุคคลที่สาม ในส่วนคู่กรณียังไม่มีการโต้ตอบและไม่มีการดำเนินคดี ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรทางทีมงานก็ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของทั้งสองคน ซึ่งทางรายการต้องพิจารณาถึงความเสียหายหากมีการส่งผลกระทบต่อบริษัทและสถานีก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ

“คิดว่าในครั้งต่อไป การที่จะเอาผู้เข้าแข่งขันมาร่วมเล่นเกม ก็ต้องเอาอันนี้เป็นบทเรียน ว่าคุณต้องซื่อตรงกับคำพูดของคุณ เพราะนี่เป็นรายการโทรทัศน์ เป็นสื่อที่มีคนติดตามเยอะแยะ รายการนี้เป็นรายการที่เรทติ้งสูงอยู่แล้ว ถ้าเขาปกปิดบิดเบือน หรือไม่พูดความจริง ถ้ามีคนที่รู้ความจริงตัวเขาจะเสียหายเอง ทางรายการเองก็ต้องระวังต่อไป หน้าที่ของเราคือทำรายการให้สนุกมากขึ้น อยู่บนพื้นฐานความจริง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน กติกาของรายก็ต้องรัดกุมมากขึ้น”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image