‘องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย’แพร่แถลงการณ์ จี้’ทัพเรือ’ชี้แจงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ตั้งองค์กรอิสระตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง “ถามกองทัพเรือกรณีชี้แจงโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า
“จัดหาอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรมตรวจสอบได้อย่างไร?” โดยเป็นการตั้งคำถามถึงกองทัพเรือ กรณีโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า การจัดหาดังกล่าวจะทำอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรมตรวจสอบได้อย่างไร

โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาระบุว่า “ตามที่กองทัพเรือจัดให้มีการแถลงข่าวชี้แจงโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ณ โรงเก็บอากาศยาน เรือหลวงจักรีนฤเบศร ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้ติดตามข้อมูลการแถลงข่าวในลักษณะการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว โดยกล่าวแต่สิ่งที่เป็นผลดีโดยไม่พูดถึงข้อด้อยหรือผลเสียที่ควรจะแจ้งให้คนไทยเจ้าของภาษีทุกบาททุกสตางค์ทราบอย่างแท้จริง ซึ่งยังมีข้อสงสัยหลายประการที่กองทัพเรือยังไม่สามารถตอบคำถามต่อสังคมได้ อาทิ

-กรณีรองนายกฯประวิตรออกมาพูดการซื้อเรือดำน้ำก่อนหน้านี้ว่า “ซื้อสองแถมหนึ่ง” นั้นคือการโกหกสังคมไทยใช่หรือไม่ เพราะตามถ้อยแถลงของกองทัพเรือมีเป้าหมายที่ชี้ชัดอยู่แล้วว่าจัดซื้อตามแผนยุทธศาสตร์กองทัพเรือที่กำหนดว่าต้องการมีเรือดำน้ำ 3 ลำมาตั้งแต่ต้น เหตุใดจึงมีการบิดเบือนข้อมูลในลักษณะโฆษณาชวนเชื่อหลอกสังคมไทยว่า “ซื้อสองแถมหนึ่ง”

-การจัดซื้อเรือดำน้ำจะกระทบต่อฐานะทางการเงินการคลังของประเทศในระยะยาวและจะมีผลต่อการขาดเงินไปใช้ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนหรือไม่โดยเฉพาะด้านการสาธารณสุข ด้านการศึกษา การพยุงราคาผลิตผลทางการเกษตรที่ราคาตกต่ำหรือไม่ อย่างไร ฯลฯ

Advertisement

-สถานะทางการคลังของประเทศไทยในขณะนี้มีความร่ำรวยมาก GDP ขยายตัวสูงถึงขนาดสามารถจัดสรรงบผูกพันให้กับกองทัพเรือไปจัดหาเรือดำน้ำมาประจำการได้เชียวหรือ? ตลอดระยะเวลาที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศทำไมกระทรวงกลาโหมจึงมีการตั้งงบประมาณเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดดจนถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีกองกำลังทางทหารมีพลังมากที่สุดในโลกอันดับที่ 24 หรือเพียงเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้ลดข้อครหาว่าเป็นเพียงการใช้งบประมาณส่วนตัวของกองทัพเรือใช่หรือไม่?

-กรณีการตั้งงบประมาณผูกพันเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอันขัดต่อมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวิธีงบประมาณ พ.ศ.2502 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2503 นั้นกระทำได้หรือไม่ อย่างไร ?

-ก่อนหน้านี้รองนายกฯประวิตรออกมาพูดว่าการซื้อเรือดำน้ำจะผ่อนชำระ 11 ปีแต่วันนี้กลับแถลงว่าจะแบ่งชำระเป็น 17 งวดใน 7 ปีในเรือลำแรก ตกลงสังคมไทยควรจะเชื่อใครดี หรือเป็นวิธีลับ ลวง พราง หลอกประชาชนไปวันๆ

-ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือนำเสนอมาโดยตลอดว่ามีศักยภาพในการรบและปกป้องอำนาจอธิปไตยทางทะเลขั้นสูงหลังจากที่มีการเสนอและจัดหาเรือหลวงจักรีนฤเบศรมาประจำการและเรือรบขนาดใหญ่ กลาง เล็กอีกมากมายจนไม่มีที่เก็บ นอกจากนั้นยังมีเครื่องบิน Sea Harrier อีกหนึ่งฝูง ซึ่งปัจจุบันเอาไปเก็บไว้ที่ไหนแล้ว เอามาใช้ประโยชน์อะไรให้คุ้มค่าหรือไม่

-ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามใดที่จำเป็นต้องใช้เงินภาษีของประชาชนอย่างมหาศาลเพียงเพื่ออยากมีกองเรือดำน้ำไว้ประจำการ และทำไมยุทโธปกรณ์ เรือรบต่างๆ ที่มีประจำการอยู่แล้วมากมาย จึงไม่สามารถตอบโต้ภัยคุกคามต่าง ๆ ได้เพียงพอ

-ข้ออ้างในการใช้ปกป้องทรัพยากรทางทะเลของชาตินั้น จะใช้ปกป้องอย่างไรในเมื่อขณะนี้เราก็ปล่อยให้นายทุนข้ามชาติเข้ามาขุดสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจนพรุนอ่าวไทยไปหมดแล้ว แม้กระทั่งกำลังแก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ด้านปิโตรเลียมและให้ต่างชาติเข้ามายึดประเทศไทยได้ถึง 99 ปี แม้มีกรณีพิพาทชายแดนเขมรเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง เรือดำน้ำจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาให้เขมรกลัวจนตัวสั่นหรือไม่ อย่างไร?

-ตลอดระยะเวลาในการจัดหาเรือดำน้ำ ทำไมไม่มีการเปิดเผยข้อมูลการกำหนด TOR ข้อมูลการแข่งขันราคาและรายละเอียดข้อเสนอต่าง ๆ ของแต่ละประเทศในการเสนอแข่งขันกันของประเทศต่างๆ ที่ยื่นข้อเสนอมา ซึ่งไม่ใช่ชั้นความลับทางความมั่นคง และคณะกรรมการที่พิจารณาในเรื่องนี้ทั้งหมด 22 คนเป็นใครบ้าง ทำไมไม่เปิดเผยรายชื่อให้สาธารณชนทราบ เพื่อที่สาธารณชนจะได้ยื่นให้ สตง., ป.ป.ช., หรือ ป.ป.ง.ตรวจสอบสถานะในอดีต-ปัจจุบันและอนาคตของกรรมการแต่ละคนได้ เพื่อความโปร่งใส?

สุดท้ายการชี้แจงโครงการจัดหาเรือดำน้ำว่า “จัดหาอย่างโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรมตรวจสอบได้” นั้น ใครๆ ก็พูดได้แต่ถ้าจะให้โปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรมตรวจสอบได้จริง ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้ ม.44 มีคำสั่งตั้ง “คณะกรรมการอิสระ” ขึ้นมาคณะหนึ่งซึ่งไม่ใช่คนของกองทัพ แต่เป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานวิชาการสถาบันการศึกษา หน่วยงานยุติธรรมเช่น ผู้พิพากษาศาลยุติธรรม ตุลาการศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลชุดนี้ มาดำเนินการตรวจสอบโครงการฯและการหาเรือดำน้ำทั้งหมดว่าเป็นไปตามกฎหมายโปร่งใสบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่?

ประกาศมา ณ วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2560
นายศรีสุวรรณ จรรยา
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image