กรณีคดีนายอุดม ศิริสอน อายุ 54 ปี และนางแดง ศิริสอน อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองกุงไทย ม.4 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมในข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถาง ก่อสร้าง ทำไม้ ยึดถือครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการกระทำให้เสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ตั้งแต่ปี 2553 และในปี 2554 กระทั่งศาลฎีกาพิพากษาจำคุกสองสามีภรรยา คนละ 5 ปี ขณะที่ทนายความประกาศยื่นเรื่องรื้อฟื้นคดีใหม่ภายในสัปดาห์หน้านั้น
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองกุงไทย ม.4 ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ไปยังบ้านนายอุดม และนางแดง พบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ถูกปิดไว้ไม่มีใครอยู่ เนื่องจากนางสาย ภูเชิดสาย น้องสาวนางแดง อาศัยอยู่ด้วยกันนำวัวออกไปเลี้ยงตั้งแต่เช้า ส่วนญาติๆ เดินทางไปเยี่ยมนายอุดม และนางแดง ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ชาวบ้านและเพื่อนบ้านยังคงนั่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวต่างแสดงความสงสารสองสามีภรรยา
นายรวม ภูเชิดสาย อายุ 62 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับนางแดง กล่าวว่า ที่ผ่านมานายอุดมและนางแดง มีอาชีพยกบ้านและทำนา ระยะหลังนายอุดม มีปัญหาสุขภาพ ถูกรถชนจึงเลิกทำอาชีพยกบ้าน เหลือไว้เพียงรถบรรทุก 6 ล้อสภาพเก่าจอดไว้ และมายึดอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไปกระทั่งมาถูกจับและติดคุก ทำให้ญาติและเพื่อนบ้านสงสารเป็นอย่างมาก ในอดีตหลายสิบปีที่ผ่านมาถือว่ามีชีวิตที่รันทดมาก ทั้งสองคนเคยมีลูก เป็นผู้หญิงถึง 2 คน แต่เสียชีวิตทั้งคู่
ด้านนางพวงเพชร แก้วสาโฮง อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า รู้สึกสงสารนายอุดม และนางแดง เพราะถือว่าทั้งสองคนฐานะทางบ้านลำบาก ไม่มีลูกไว้คอยดูแล ยิ่งตอนนี้มีปัญหาเรื่องสุขภาพและยังติดคุกอีก ทำให้รู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อ้อนวอนทนายขอให้รื้อคดีใหม่ เพื่อช่วยเหลือนายอุดมและนางแดงด้วย
