เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร (กทม.) และนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมถนนเยาวราช เพื่อเตรียมยกระดับถนนเยาวราชและถนนข้าวสารให้เป็นพื้นที่นำร่องโครงการอาหารริมทาง (สตรีทฟู้ด)
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เป็นที่รับทราบกันว่าสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้จัดอันดับให้กทม.เป็นเมืองที่มีอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลกมาเป็น 2 ปีซ้อน ซึ่งทางกทม.พยายามจะสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีได้สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยเป็นมูลค่าถึงปีละ 5 แสนบาท ทั้งนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้นโยบายเกี่ยวกับการขอความร่วมมือของผู้ประกอบการ เช่น ในเรื่องของการยกระดับคุณภาพของอาหาร การปรุงอาหารให้สะอาดถูกสุขลักษณะอนามัย ตลอดจนรูปแบบและอัตลักษณ์ต่างๆ ให้ดูสวยงาม โดยเฉพาะในย่านเยาวราชจะพบว่าเป็นย่านของชาวจีนดั้งเดิม หรือเป็นที่รู้จักในย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งทางกทม.ก็จะพยายามจัดรูปแบบต่างๆ ให้เป็นระเบียบ เช่น การสวมใส่ผ้ากันเปื้อน กำหนดจุดทิ้งขยะ ห้ามไม่ให้ทิ้งเศษอาหารบนพื้นถนน ซึ่งหากยังคงมีภาพลักษณ์เช่นนี้ ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการเอง
นอกจากนี้ทางกทม.ได้จัดสำนักอนามัยลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพของอาหารว่าปนเปื้อนสารเคมีต่างๆ หรือไม่ มีหนูที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อหรือไม่ และหลังจากการตรวจสอบแล้วทางสำนักอนามัยจะให้ใบรับรองว่าผ่านการตรวจสอบคุณภาพอาหารแล้ว
อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและสามารถรักษาอัตลักษณ์คงเดิมนี้ไว้ได้ เพราะท้ายสุดแล้วก็จะส่งผลดีและสร้างรายได้ต่อผู้ประกอบการตลอดจนสร้างรายได้ต่อประเทศด้วย ทั้งนี้จากการหารือร่วมกับเขตสัมพันธวงศ์ในวันนี้ก็ได้แนวทางในเบื้องต้น คือ จะจัดทำป้ายราคาอาหารของแต่ละร้านให้เป็น 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษและจีน รวมถึงกำหนดราคาให้อยู่ในมาตรฐานไม่เอาเปรียบผู้บริโภคจนเกินไป และอีกประการหนึ่งคือ จะประสานสถานีตำรวจในพื้นที่ให้ขีดสีตีเส้นให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการจราจรติดขัด
“ทางกทม.สัญญาว่าการจัดระเบียบนี้จะทำให้ดีที่สุด เพราะรายได้ที่เกิดขึ้นนั้นมีมูลค่ามหาศาล ซึ่งเมื่อจัดระเบียบแล้วผมอยากให้มีกำไนเพิ่มขึ้นไปอีกแสนล้าน ซึ่งไม่ใช่เพียงย่านเยาวราชอย่างเดียว หมายรวมถึงถนนข้าวสารด้วย ซึ่งก็จะปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ ท้ายสุดเพื่อให้เป็นโครงการนำร่องและโมเดลในพื้นที่อื่นต่อไป อย่างเช่น คลองโอ่งอ่าง ทองหล่อ ตลาดน้ำ เป็นต้น” พล.ต.อ.อัศวินกล่าว
เมื่อถามว่าจะเห็นรูปธรรมชัดเจนเมื่อไหร่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในวันนี้ก็เริ่มทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการถึงการยกระดับสตรีทฟู้ดส์ รวมถึงจะอธิบายต่อผู้ค้าให้ชัดเจนถึงแนวทางการจัดระเบียบที่ไม่ได้หมายถึงว่าทางกทม.จะจัดระเบียบจนขาดเสน่ห์ไป แต่กทม.จะพยายามปรับปรุงให้ใกล้เคียงกับของเดิมที่มีอยู่ ซึ่งกทม.ยังได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ด้วย เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระท่องเที่ยวและกีฬา โดยเชื่อว่าภายในปลายเดือนพฤษภาคมนี้จะเห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน
