‘ลุงตู่’ประกาศว่าเศรษฐกิจดี โตขึ้นร้อยละ 3.5 แต่แม่ค้าทั่วไปบ่น ขายของไม่ดีเลย เอาอะไรมาวัด

หลังจากที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ ให้มีการพัฒนาจากยุค 3.0 เข้าสู่ยุค 4.0 โดยเร็ว เช่นมีการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โดยเฉพาะที่ จ.สระแก้ว เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนำร่อง มีนักธุรกิจนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาทาบทามการลงทุน ที่ให้และมีสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีนและญี่ปุ่นจะให้ความสนใจด้านการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมาก

ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงความก้าวหน้าของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับทราบในช่วงเย็น ทำให้ทราบข่าวการพัฒนาในทุกๆ ด้านของรัฐบาล และในปีนี้เศรษฐกิจโตขึ้นร้อยละ 3.5 บ่งบอกว่าเศรษฐกิจประเทศไทยดีขึ้นไม่ตกอับแน่นอน จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้า ในระดับรากแก้วและระดับกลางหลายๆ คน หลายแห่งในท้องที่ จ.สระแก้ว ได้รับคำตอบเดียวกันทั้งหมด คือ แม่ค้าที่ขายสินค้าในตลาดสดมีมากกว่าคนซื้อสินค้า คนเดินตลาดมีแต่เดินๆ ดูๆ แล้วก็ไม่ซื้อ ซื้อสินค้าไม่ว่า ผักสด ผลไม้ มาวางขาย ขายได้ครึ่งเดียว นอกนั้นเหลือ ต้องขายแบบเลหลัง ต้นทุนหายกำไรหด จากเคยขายได้วันละ 1,000-2,000 บาท ทั้งทุนและกำไร แต่เดี๋ยวนี้ทั้งทุนทั้งกำไร วันละ 300-500 บาท หักต้นทุนแล้วเหลือไม่ถึง 100 บาท จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด กลุ่มขายผัก ผลไม้ และอาหารสดอื่นๆ ในตลาดสดเทศบาล ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ดูจะสวนกระแสของรัฐบาลที่บอกว่าเศรษฐกิจดีกว่าเดิม

ทางด้านนางบุญล้อม บรรณสาร แม่ค้าขายผัก ขายผลไม้ในตลาดสดเทศบาล ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วขายของดีกว่านี้มากหลายเท่า แต่ในปีนี้ขายไม่ดี มีแต่คนเดิน แต่ไม่มีคนซื้อ ถ้าซื้อก็ซื้อคนละนิดคนละหน่อย เท่าที่จำเป็นเท่านั้น รายได้ก็พอซื้อกับข้าวกินไปวันๆ ไม่มีเหลือเก็บ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็ลำบาก

ส่วนแม่ค้าขายข้าวหลาม ที่วางขายข้างทางถนนสุวรรณศร บริเวณสี่แยกแซร์ออ อ.วัฒนานคร เล่าว่า ข้าวหลามป้าบาง อ.วัฒนานคร เป็นเจ้าตำรับข้าวหลามสังขยาที่มีชื่อเสียงและเป็นสินค้าโอท็อปของ จ.สระแก้ว เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านจะแวะซื้อและขายดีมาก แต่ในระยะปี 2560 จะขายไม่ดี วางขายจำนวนเท่าเดิม ประมาณวันละ 100 กระบอก ขาย 3 กระบอก 100 บาท เมื่อปีที่แล้วขายหมดทุกวัน แต่ช่วงนี้ขายได้ไม่ถึงครึ่ง เมื่อตกเย็นก็ต้องขายแบบกระบอกละ 10 บาท จะเก็บไว้ขายอีกก็ไม่ได้ บางวันก็ขาดทุน หรือไม่ก็ขายให้ได้เท่าทุน ปีนี้เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ คนซื้อจะไม่ซื้ออะไรกินง่ายๆ คนตกงานก็เยอะ อีกอย่างเด็กไทยไม่ค่อยช่วยพ่อแม่ทำงาน แรงงานตัดอ้อย ปลูกมัน เขาต้องการมาก มีแต่แรงงานชาวเขมร แต่แรงงานไทยไม่มี รายได้ในครอบครัวก็น้อย

Advertisement

ทางด้านนางสุ เทีย ชาวกัมพูชา แม่ค้าขายสินค้ามือสองในตลาดโรงเกลือ กล่าวว่า การค้าในตลาดโรงเกลือซบเซามานานแล้วนับปี ขายของได้ไม่พอค่าเช่าที่ ขายไม่ดี ขายได้บ้าง แต่ขายได้น้อย คนที่มาซื้อของก็มีไม่มาก ไม่เหมือนแต่ก่อน คนไทยชอบมาเดินตลาด แต่เดี๋ยวนี้มีมาเดินเหมือนกัน แต่ไม่ซื้อของ เข้าใจว่ารายได้คนไทยอาจลดลง ก็เลยไม่ค่อยอยากซื้อ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็คงไม่ซื้อ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image