สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องในวันวิสาขบูชา

เมื่อเวลา 17.29 น. วันที่ 10 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา พุทธศักราช 2560 โดยมีพสกนิกรจำนวนมากเฝ้าฯ รับเสด็จตลอดเส้นทางที่เสด็จฯ ผ่าน พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง

เมื่อเสด็จฯ ถึง ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วเสด็จออกชานหน้าพระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนบูชาสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย โอกาสนี้ ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้า ฝ่ายใน คณะองคมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คู่สมรส และข้าราชการ เข้ารับพระราชทานต่อเทียนจากพระองค์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

จากนั้น ทรงนำสวดมนต์บทสรรเสริญพระรัตนตรัย จบแล้ว เสด็จฯ ประทักษิณพระอุโบสถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงค์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้า ฝ่ายใน สามรอบ เสร็จแล้ว เสด็จขึ้นพระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร ถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว พระสรภาณโกศล วัดไตรมิตรวิทยาราม พระพิพัฒนวราภรณ์ วัดสุนทรธรรมทาน พระวินัยสุธี วัดธาตุทอง และพระสมุทรมังคลาจารย์ วัดกลาง จ.สมุทรปราการ ถวายอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระราชาคณะถวายอดิเรก ออกจากพระอุโบสถเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ กลับ ได้เสด็จฯ ออกจากพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทางประตูเกย ไปประทับ ณ ศาลาสหทัยสมาคม จากนั้นเสด็จออกและผ่านถนนจักรีจรัณย์ ไปยังประตูวิเศษไชยศรี เลี้ยวขวาแล้วทรงพระดำเนินไปตามถนนหน้าพระลาน กระทั่งเสด็จฯ ถึงแยกป้อมเผด็จหน้าศาลหลักเมือง เสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง แล้วเสด็จฯ กลับ ท่ามกลางพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น 2 ฝั่งข้างทาง พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้องตลอดเส้นทาง

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่มาร่วมในงานพระราชพิธีวิสาขบูชา บริเวณถนนหน้าพระลาน บริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง โดยมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยเสด็จด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวล ทรงโน้มพระวรกาย และตรัสขอบคุณพสกนิกรที่มาร่วมพระราชพิธีและเฝ้าฯ รับเสด็จ ท่ามกลางสภาพอากาศฝนตกโปรยปรายเล็กน้อย ทำให้พสกนิกรต่างแสดงสีหน้าปลาบปลื้มใจ อิ่มเอิบหัวใจเป็นล้นพ้น

Advertisement

นายทองวาลย์ พิกุลทอง อายุ 42 ปี ชาวจ.สุรินทร์ มาพร้อมภรรยาและลูก ซึ่งเพิ่งกราบถวายสักการะพระบรมศพในหลวงร.9 เสร็จ และเดินมาบริเวณถนนหน้าพระลานได้รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพอดี กล่าวว่า จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าพระองค์จะเสด็จออกเยี่ยมประชาชน จึงรู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่พวกเรามาทันได้รับเสด็จพอดี อย่างไรก็ตาม พวกเราจะปฏิบัติตัวเป็นคนดีเพื่อเป็นประชาชนที่ดีของพระองค์ ซึ่งอย่างที่ทำอยู่แล้วคือ รักษาศีล 5 หมั่นทำบุญอยู่บ่อยๆ

ทองวาลย์ พิกุลทอง

ขณะที่ นายไวทยะ วงษ์โสภา อายุ 46 ปี อาสาสมัครที่มาช่วยจัดแถวประชาชนที่มากราบพระบรมศพ ซึ่งมีโอกาสได้รับเสด็จในหลวงร.10 เช่นกัน กล่าวด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า ดีใจที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จใกล้ชิดพระองค์ ปกติไม่ค่อยมีโอกาสอย่างนี้ เพราะส่วนใหญ่พระองค์จะเสด็จฯ ด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พระองค์เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวังเพื่อทรงเยี่ยมประชาชน ทั้งนี้ สังเกตเห็นประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จหลายคนปลื้มปีติถึงกับน้ำตาไหล คนที่รู้จักกันร้องไห้ออกมาเพราะพระองค์ตรัสว่าขอบคุณ ตนได้ฟังก็ดีใจไปด้วย

“วันนี้ได้เห็นพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ผมก็ดีใจ โอกาสนี้จึงอยากขอเป็นตัวแทนประชาชนที่จะกล่าวถวายพระพร ให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป และบอกเพื่อนประชาชนคนไทยให้สามัคคีกัน เหมือนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วยความสามัคคีในวันนี้ ซึ่งคิดว่าพระองค์ก็ทรงปรารถนาให้คนไทยสามัคคีเช่นกัน” นายไวทยะ กล่าว

ไวทยะ วงษ์โสภา
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image