วันที่ 2 มีนาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายดะโต๊ะ สรี มุสตาฟา มูฮำหมัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม ประเทศมาเลเซีย ได้เข้าพบและพูดคุย โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันว่าในอนาคต ควรมีการจัดประชุมระดับคณะรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนร่วมกัน (Joint Cabinet Meeting) เพื่อถกถึงปัญหาต่างๆ ในทุกเรื่อง โดยส่วนตัวคิดว่า ควรเป็นประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) บวกไทยและมาเลเซีย และหากเป็นไปได้ควรมีการนำคณะรัฐมนตรีของอาเซียนแบบแพคกลุ่มเพื่อพบปะและพูดคุยกับประเทศอื่นๆ เช่น ยุโรป เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น เนื่องจากต่อไปในอนาคตอาเซียนจะเชื่อมต่อกันอย่างไม่มีพรมแดน นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนผ่านประตูใดก็ได้ในอาเซียน ซึ่งจะมีผลดีค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยยังมีกำหนดการเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จึงเสนอว่าควรมีการจัดประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้วยกันก่อนเพื่อถกประเด็นเตรียมการก่อนที่นายกฯทั้ง 2 ประเทศจะพบกัน ซึ่งมาเลเซียเห็นตรงกัน
สำหรับตัวเลขส่งออกเดือนมกราคมที่ผ่านมา เท่าที่ได้ดูตัวเลข พบว่าไทยยังติดลบน้อยกว่าประเทศอื่นมาก โดยไทยติดลบด้านส่งออก 8.9% หากหักราคาน้ำมันออกจะติดลบ 5% ส่วนสิงคโปร์ติดลบ 15% ไต้หวันติดลบ 13% เกาหลีใต้ติดลบ 18.8 อินโดนีเซียติดลบ 20.7% จีนติดลบ 11.2% ซึ่งถือว่าน่ากลัวมากถ้าเทียบกับปีที่แล้วที่ติดลบเพียง 2% ญี่ปุ่นติดลบ 2.9% ส่วนเวียดนามส่งออกยังบวก เพราะมีบริษัทซัมซุงตั้งฐานการผลิตอยู่ แต่ในส่วนของไทยนั้นถือว่ายังดี เพราะมีเรื่องของการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเข้ามาช่วย
“ส่วนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะเป็นอย่างไร ต้องดูสถานการณ์อีกรอบ หากมีภาคส่วนใดที่ได้รับผลกระทบเราก็ต้องคอยดูแลต่อไป และเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ส่งออกเป็นเช่นนี้ เราก็ต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ แต่ไม่ใช่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเรื่อยๆ เพราะเงินมีจำกัด” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ ภาคเอกชนและคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เตรียมจะจัดสัมมนาให้ความรู้สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนไทยอีกด้วย หลังจากที่ผ่านมามีแต่ข่าวไม่ดี จนสร้างความกังวลให้นักลงทุน
