ร่วมสอบนักธุรกิจชาวจีนที่ ‘ภูเก็ต’ หลังพบเอี่ยวคดีแกงค์จีน ‘ปล้นปืน’

ผู้ช่วยผบ.ตร.ร่วมสอบปากคำนักธุรกิจชาวจีนที่ภูเก็ต หลับพบเกี่ยวข้องคดีแกงค์จีนปล้นปืนที่กรุงเทพฯ เบื้องต้นพบว่าซื้อซิมล็อตใหญ่ในไทยจำหน่าย บ.ทัวร์จีน ก่อนจำหน่ายต่อให้แก่นทท.มาใช้ในไทย นำตัวส่งสตม.สอบสวนเพิ่ม

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 5 มีนาคม พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ผช.ผบ.ตร.พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท.ควบคุมตัวนาย Su Su อายุ 30 ปีสัญชาติจีนจากวิลล่าเมอเดก้า หมู่ 2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ตมาสอบปากคำที่ห้องประชุม สภ.ถลาง

หลังสืบทราบว่านายซูซูอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเปิดการใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือให้กับหนึ่งในผู้ต้องหาชาวจีนที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นปืนที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลากว่า 1.30 ชม.ในการสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งนายซูซูต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้นยอมรับว่าเป็นคนเปิดหมายเลขโทรศัพท์มือถือให้กับเพื่อน แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว โดยนายซูซูเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2015 วีซ่าอนุญาตให้อยู่ถึง 27 ส.ค.2015 จากนั้นได้ยื่นต่อวีซ่าเพื่อขอทำธุรกิจต่อที่ กก.2 ตม.1 ได้รับอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 27 ส.ค.2016 และได้มาทำงานที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ก่อนหน้านี้นายซูซู มีชื่อภาษาไทยว่า โป้ง เคยทำงานบริษัททัวร์ที่เมืองกวางโจ สาธารณรัฐประชาชนจีน จนกระทั่งเข้ามาทำงานที่ จ.ภูเก็ต

พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภจว.ภูเก็ต กล่าวว่า การควบคุมตัวนายซู ซู มานั้นไม่ได้เป็นการจับกุม แต่เป็นการเชิญตัวมาสอบสวน เนื่องจากที่ชุดเฉพาะกิจส่วนกลางได้สืบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปล้นปืนของแก็งชาวจีนที่กรุงเทพเนื่องจากมีชื่อเป็นเจ้าของซิมโทรศัพท์ที่กลุ่มคนร้ายใช้ จึงประสานมายังจังหวัดเพื่อเข้าเชิญตัวมาสวบสวน โดยเบื้องต้นนายซู ซู นั้นทำธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยมีการซื้อซิมโทรศัพท์ในประเทศไทยเป็นล็อตใหญ่ จำนวนครั้งละมากๆ ส่งให้บริษัททัวร์ เพื่อจหน่ายให้นทท.จีนใช้เมื่อเดินทางมาประเทศไทย คนร้ายจึงเอาซิมนี้มาใช้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่านายซู ซู มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม จึงต้องนำตัวไปสอบสวนเพิ่มที่กทม.

Advertisement

ส่วนเรื่องซิมโทรศัพท์ที่นำไปจำหน่ายให้นทท.จีนใช้คราวละมากๆ โดยไม่เป็นการลงทะเบียนผู้ใช้ที่ถูกต้องนั้น แน่นอนว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง

ส่วนเรื่องแผนที่ที่พบในบ้านของกลุ่มคนร้ายมีการวงกลมไว้ที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ ซึ่งอาจเป็นเป้าหมายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภูเก็ตและทุกหน่วยงานไม่กังวล เพราะมีมาตรการตรวจสอบป้องกันอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยหย่อนในด้านมาตรการความปลอดภัยอยู่แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image