“เจ้าคุณประสาร” เปิดใจหลัง ตร.คุมตัว ยันเคารพกฎหมาย องค์กรพุทธลุยยื่น 2 หมื่นชื่อถอดผู้ตรวจการฯ

พระเมธีธรรมาจารย์ เปิดเผยภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว พร้อมแกนนำเครือข่ายองค์กรพุทธ เป็นเวลา 30 นาที ที่วัดศรีสุดาราม ว่า ที่ผ่านมาภาคีเครือข่ายฯ เคารพกฎมาตลอด ทั้งกฎหมายบ้านเมือง พระธรรมวินัย และจารีตประเพณี หลังจากที่อาตมาพูดกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อาตมาขอกล่าวเพียงเท่านี้ และมอบให้พระครูปลัดกวีวัฒน์ รองเลขาธิการ ศพศ แถลงข่าวแทน เพื่อกล่าวถึงจุดยืนขององค์กรชาวพุทธ และภาคีเครือข่ายเกี่ยวกับท่าทีของผู้ตรวจการแผ่นดินในการวินิจฉัยเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช

2-16-768x512

พระครูปลัดกวีวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากได้ทราบข้อห่วงใยจากทุกฝ่ายในการจัดแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อให้ภารกิจของภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธดำเนินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอสรุปประเด็นในการแถลงข่าวสั้นๆ ที่มีทั้งหมด 2 ประเด็นคือ 1.คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีต่อมติ มส.วันที่ 5 มกราคม เรื่องการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช และ 2.ตัวอย่างผลวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) พิจิตร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 ฉะนั้น จึงอยากแจ้งให้ทราบว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีสิทธิวินิจฉัยมติ มส.และไม่มีอำนาจดำเนินการใดๆ

55-2-768x512

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับจดหมายเปิดผนึกของ ศพศ ที่ได้แจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชน ได้ระบุถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน 6 ข้อ ดังนี้ 1.ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจพิจารณามติ มส. 2.ผู้ตรวจการแผ่นดินจงใจตีความบทบัญญัติ มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ เข้าข้างตนเองเพื่อให้ตนเองมีอำนาจในการวินิจฉัย และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ร้องที่ไม่ใช่ผู้เสียหาย 3.ผู้ตรวจการแผ่นดินจงใจตีความหมายผิดไปจากราชประเพณีของการสถาปนาสมเด้จพระสังฆราช 4.การวินิจฉัยมติ มส.ของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ใช่กระทบเฉพาะศาสนจักรเท่านั้น แต่กระทบไปถึงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 5.ถ้าเทียบเคียงกับการแต่งตั้งผู้นำศาสนาอื่นๆ ในไทย ขั้นตอน และกระบวนการเหมือนศาสนาพุทธทุกประการ และ 6.การดำเนินการสถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ก็ดำเนิการทุกอย่างตามที่ มส.ได้ดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยมีหลักฐานจดหมายเหตุการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พ.ศ.2532 และราชกิจจานุเบกษา เล่ม 106 ตอนที่ 59 ที่ 6/2532 ด้วยเหตุผลทั้งหมดตามที่กล่าวมานี้ ศพศ และ สนพ เห็นว่าผู้ตรวจการแผ่นดินมีเจตนาวินิจฉัยตีความกฎหมายผิด ขัดต่อจารีต ราชประเพณี และขัดต่อจริยธรรมขององค์กรอิสระอย่างร้ายแรง ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่คณะสงฆ์ และสังคมไทยอย่างรุนแรง ดังนั้น ศพศ และ สนพ จึงมีมติดำเนินการรวยรวมรายชื่อ พระสงฆ์ และคฤหัสถ์ จำนวน 20,000 รายชื่อ เพื่อยื่นต่อภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ถอดถอนผู้ตรวจการแผ่นดิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image