ชาวแหลมใหญ่เดินเท้ามัดมือมัดปาก ยื่นค้านสร้างท่าเรือลำเลียงแก๊สแอลพีจี

วันที่ 10 มีนาคม เมื่อเวลา 09.00 น. กลุ่มชาวบ้านหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เกือบ 100 คน นำโดยนายบัณฑิต ปั่นสวาท, นายชวน เกิดทองดี, นายสุรชัย เอี่ยมสวัสดิ์ ได้ใช้ผ้าขาวปิดปากและมัดมือตนเอง รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาสมุทรสงคราม เพื่อยื่นหนังสือทวงถามถึงการก่อสร้างท่าเทียบเรือโครงการคลังแก๊สแอลพีจีของบริษัท เอ็นเอสแก๊สแอลพีจี จำกัด เพราะกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน รวมทั้งพื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตชุ่มน้ำ ซึ่งอาจจะขัดต่ออนุสัญญาแรมซ่า แต่บริษัทยังคงเดินหน้าใช้เครื่องจักรกลหนักเร่งก่อสร้าง จนทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันออกมาคัดค้านและขอร้องให้ตรวจสอบการก่อสร้างท่าเทียบเรือ หลังมีการวางเสาเข็มในทะเลระยะทางยาวกว่า 300 เมตร ว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ เกรงการก่อสร้างจะรุกล้ำทะเล และกีดขวางเส้นทางเข้าออกเรือประมงพื้นบ้าน โดยมีนายพิชัย แสงชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาสมุทรสงครามเป็นผู้รับหนังสือ พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ขณะนี้ได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะเข้าไปดูข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามกรอบกฎหมายต่อไป

นายชวนกล่าวว่า ตนและชาวบ้านได้รวมตัวกันมาทวงถามคำถามต่างๆ ของชาวบ้านที่ภาครัฐยังไม่ได้ตอบ เช่น ท่าเทียบเรือแห่งนี้ถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ทั้งที่เอกชนสร้างท่าเทียบเรือจะเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังขอให้ภาครัฐคุ้มครองชาวชุมชนคลองน้อยด้วย ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านเดือดร้อนจากการสร้างท่าเทียบเรือปิดคลองน้อย ที่ใช้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรเข้าออกทะเลกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นประจำทุกวัน แล้วชาวบ้านจะใช้เส้นทางไหนเข้าออกทำมาหากินเลี้ยงปากท้องเลี้ยงดูครอบครัว นอกจากนี้ชาวบ้านกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน จากการที่บริษัทอ้างว่าจะขุดคลองใหม่ รวมทั้งพื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตชุ่มน้ำส่วนการที่ชาวบ้านปิดปากปิดมือ มีความหมายว่าปิดปากไม่ให้ชาวบ้านพูด มัดมือไม่ให้ชาวบ้านออกมาต่อสู้ร้องเรียน ผู้สื่อข่าวถามว่าใครปิดปากปิดมือ นายชวนบอกว่าตนขอไม่ตอบว่าเป็นหน่วยงานใด

จากนั้นชาวบ้านซึ่งใช้ผ้าขาวปิดปากและมัดมือตนเอง ได้เดินเท้าเปล่าจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาสมุทรสงคราม มุ่งหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทางประมาณ 3 กม. เพื่อยื่นหนังสือทวงถามถึงการก่อสร้างดังกล่าว และอ่านแถลงการณ์ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนคลองน้อยและพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด และขอให้หยุดทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ต่อศูนย์ดำรงธรรมโดยมีนายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย ปลัดจังหวัดสมุทรสงครามเป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว

จากนั้นนายสุรชัย เอี่ยมสวัสดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์สรุปว่า “ตามที่บริษัท เอ็นเอสแก๊ส จำกัด ได้ดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างคลังแก๊ส และท่าเทียบเรือ ตลอดจนการทำถนนเพื่อขนส่งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งตั้งในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ที่จดทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ ลำดับที่  1099 และได้รับใบอนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรสงคราม ปัจจุบันบริษัทได้ก่อสร้างท่าเทียบเรือโดยปักเสาตอม่อสะพานกีดขวางเส้นทางการสัญจรของชาวประมงในพื้นที่ ตลอดจนกระทบระบบนิเวศน์ ชาวบ้านจึงร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม มณฑลทหารบกที่ 16 จึงจัดประชาคม เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2559 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้หยุดดำเนินการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต่อมาวันที่ 6 มี.ค.59 ได้มีการขุดร่องน้ำใหม่ใกล้แนวสะพาน โดยอ้างว่าเป็นเส้นทางใหม่ให้ชาวบ้าน ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นหาดเลนที่สมบูรณ์และเป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำดอนหอยหลอด ตามอนุสัญญาแรมซาร์ไซด์ ซึ่งเป็นข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ ชาวประมงพื้นบ้านจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ระงับการก่อสร้างท่าเทียบเรือ, ขอให้หยุดดำเนินการขุดร่องน้ำใหม่ รวมทั้งขอให้ระงับการก่อสร้างถนนสายใหม่ด้วย และนำเข้าสู่กระบวนการศึกษาตรวจสอบและรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ตลอดจนเรียกร้องให้ข้าราชการออกมาปกป้องประชาชน ในฐานะเป็นเจ้าของประเทศด้วย

Advertisement

201603101356277-20150302111756

นายสุรชัยกล่าวว่า ที่เดินเท้าเปล่าเป็นการแสดงว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่เหลืออะไรแล้ว หากทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านยังถูกทำลาย ในอนาคตชาวบ้านจะไม่มีอะไรเหลือแม้แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วย

นายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่าความเดือดร้อนของชาวบ้านจังหวัดไม่ได้นิ่งดูดาย โดยขณะนี้ได้ทำหนังสือหารือถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านและข้อกฎหมายต่างๆ ไปยังกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป

Advertisement

สำหรับคลังแก๊สแอลพีจีแห่งนี้ตั้งบริเวณชายฝั่งทะเลหมู่ 7 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เนื้อที่กว่า 43 ไร่ ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารสำนักงาน, ติดตั้งบัลล์หรือถังบรรจุแก๊สขนาดใบละ 1,000 ตัน จำนวน 8 ใบ ระยะแรกจะก่อสร้าง 4 ใบก่อน และท่าเทียบเรือ 1 ท่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image