ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
จ.ร้อยเอ็ด มีนามเต็มในตำนานว่า เมืองร้อยเอ็ดประตู
หมายถึงเมืองที่อำนาจทางการเมืองและการค้าแผ่ขยายกว้างไกลออกไปทุกสารทิศ เสมือนมีร้อยเอ็ดประตูเมือง ประดุจกรุงทวารวดีในมหากาพย์ของอินเดีย
(ไม่ใช่เมืองสิบเอ็ดประตูตามที่เข้าใจคลาดเคลื่อนสืบมานาน)
บรรพชนชาวร้อยเอ็ด เป็นพวกเดียวกับบรรพชนคนอีสานและสองฝั่งโขง เชื่อมโยงถึงดินแดนลาว มีหลายชาติพันธุ์ และมีชื่อเรียกตัวเองต่างกันไป เช่น ลาว, เขมร, จาม, ส่วย, ข่า ฯลฯ
มีความเป็นมาไม่น้อยกว่า 5,000 ปีมาแล้ว ประกอบด้วยคนพื้นเมืองดั้งเดิม และคนที่โยกย้ายจากภายนอก แล้วประสมประสานทางเผ่าพันธุ์
ร้อยเอ็ดอยู่บนเส้นทางการค้าภายในข้ามภูมิภาค บริเวณขอบทุ่งกุลาร้องไห้ ด้านทิศเหนือ มีชุมชนมั่งคั่งจากการแลกเปลี่ยนทรัพยาการสำคัญกับชุมชนห่างไกล ได้แก่ เกลือและเหล็ก ตั้งแต่ราว 2,500 ปีมาแล้ว (หรือราวหลัง พ.ศ. 1)
เส้นทางการค้าเกลือและเหล็กทำให้ชุมชนเติบโตเป็นบ้านเมือง แล้วแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากรัฐใกล้ทะเล เช่น รัฐทางลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฯลฯ รับศาสนาจากอินเดีย ราว หลัง พ.ศ. 1000 ร่วมสมัยรัฐเจนละ ที่มีเมืองสำคัญอยู่ทางยโสธรและอุบลราชธานี ต่อเนื่องถึงจำปาสักในลาว
นับแต่นี้ไป ร้อยเอ็ดยุคแรกเริ่มก็ขุดคูน้ำสร้างคันดินล้อมรอบ เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่า มีบึงขนาดใหญ่อยู่ตอนกลาง เรียกภายหลังว่าบึงพลาญชัย
ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นขุมทรัพย์ยิ่งใหญ่ทั้งในแง่การเกษตร ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ และในแง่การท่องเที่ยว แต่ยังถูกมองข้าม