ไก่อู เผย รบ.ยังรักษาระดับอัตราว่างงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

ไก่อู เผย รบ.ยังรักษาระดับอัตราการว่างงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แต่ไม่ละเลยผู้ว่างงาน กำชับหน่วยงานรัฐให้ข้อมูลรอบด้าน

วันนี้ (19 มี.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อห่วงใยเกี่ยวกับอัตราการว่างงานที่มีการกล่าวอ้างถึงการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า รัฐบาลนี้กำลังทำงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลายประเทศได้รับผลกระทบ แต่เราสามารถรักษาระดับไม่ให้อัตราการว่างงานสูงเกินกว่าร้อยละ 1 มาตั้งแต่เริ่มเข้าบริหารประเทศ ขณะที่อีกหลายๆ ประเทศ มีอัตราการว่างงานสูงกว่า เช่น ฝรั่งเศส ร้อยละ 10.4 สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 7.4 เยอรมัน ร้อยละ 5.3 ญี่ปุ่น ร้อยละ 4 สิงคโปร์ ร้อยละ 2.8 มาเลเซีย ร้อยละ 3.2 อินโดนีเซีย ร้อยละ 6.3 เป็นต้น อัตราการว่างงานที่ต่ำ ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีความสุขเชิงเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ไม่ละเลยที่จะดูแลผู้ว่างงาน ด้วยการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ ทั้งการเปิด Smart Job Center ที่ปัจจุบันได้เพิ่ม Smart Training Center เข้าไปด้วย เพื่อให้ความรู้และฝึกวิชาชีพแก่ประชาชน โดยในปี 2558 สามารถบรรจุงานได้ถึง 446,618 คน เฉพาะเดือน มกราคม -กุมภาพันธ์ 2559 บรรจุงานได้ 67,361 คน

พล.ต.สรรเสริญ กล่าว่า สำหรับประเด็นที่มีผู้ขอรับผลประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในระบบประกันสังคมในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 จำนวน 123,087 คนนั้น คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.3 ของผู้มีงานทำทั้งหมด และจากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคมพบว่า เดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีผู้ประกันตนทำงานในสถานประกอบการ (ม.33) จำนวน 10,348,753 คน เมื่อเปรียบเทียบกับกุมภาพันธ์ 2558 (ผู้ประกันตน ม.33 จำนวน 10,057,328 คน) จึงแสดงว่า มีผู้ใช้แรงงานเข้าสู่การทำงานเพิ่มขึ้นถึง 291,425 คน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่ผู้ว่างงานในระบบประกันสังคมจะออกไปประกอบอาชีพอิสระ เช่น เป็นผู้ประกอบการ SMEs จากการสนับสนุนของรัฐบาล ซึ่งจากตัวเลขยอดค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ในปี 58 มีถึง 100,919 ล้านบาท ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อกว่า 74,000 ราย

พล.ต.สรรเสริญ กล่าว่า ส่วนความต้องการแรงงานภาคอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ มีจำนวน 43,019 อัตรา โดย 5 ตำแหน่งงานที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่ 1.ตำแหน่งงานการผลิต 2.การขายส่ง ขายปลีก ซ่อมยานยนต์ 3.กิจการโรงแรมและอาหาร 4.ก่อสร้าง 5.การสื่อสารและข่าวสาร รัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากภายนอก ด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน พร้อมทั้งยังได้กำชับไปยังหน่วยงานของรัฐที่ให้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจแก่สังคม จะต้องสื่อความให้รอบด้าน โดยอธิบายถึงสาเหตุของปัญหา ข้อมูลที่ถูกต้อง แนวทางการแก้ไข และที่สำคัญจะต้องไม่บั่นทอนความเชื่อมั่นของประเทศในสายตาของประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image