| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการลดภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยธนาคารออมสินจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้แก่ผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้เงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม เป็นเงินบำเหน็จตกทอด นำมาขอสินเชื่อใหม่ หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระหนี้ หรือปิดบัญชีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย 4% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างข้อตกลงที่จะใช้ในการลงนามร่วมกับสำนักงาน สกสค.ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือเรื่องการจัดทำร่างข้อตกลงร่วมกับธนาคารออมสินอีกรอบ ซึ่งได้ย้ำในสิ่งที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.และ นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.เป็นห่วง โดยย้ำว่าต้องให้ครูเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดก่อนเข้าร่วมโครงการ ว่าเงินที่รีไฟแนนซ์แบ่งเป็นกี่ก้อน นำไปใช้ในการชำระหนี้ส่วนไหนบ้าง รวมถึง หากมีข้อผูกมัด อาทิ การทำประกันชีวิต เป็นต้น ต้องให้ครูรับทราบรายละเอียดชัดเจนด้วย
นายพินิจศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังหารือกรณีที่ปลัด ศธ.จะขอให้ธนาคารออมสินหักเงินของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯ มาชำระหนี้ให้ สกสค.กรณีที่ สกสค.ได้หักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.เพื่อชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป ประมาณ 60,000 กว่าราย เป็นเงินรวมประมาณ 7,000 ล้านบาทด้วย โดยได้เสนอให้ใส่เรื่องนี้ไว้ในข้อตกลงในการทำสัญญารีไฟแนนซ์ ซึ่งธนาคารออมสินยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ โดยขอนำกลับไปหารือกับคณะกรรมการธนาคารออมสินก่อน
“ส่วนที่เสนอให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูทั้งหมดให้เหลือ 4% นั้น ผมได้ถามไปแล้ว ซึ่งธนาคารออมสินได้ตอบกลับมาว่าต้องดูภาพรวมผู้กู้ทั้งระบบ และดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารด้วย โดยผู้แทนของธนาคารรับปากว่าจะนำเรื่องเข้าหารือในบอร์ดธนาคารออมสิน แต่จากที่ดูท่าทีผมคิดว่าเป็นไปได้ยาก ดังนั้น จะเร่งดำเนินการในข้อตกลงที่สามารถทำได้ก่อน ทั้งนี้ คิดว่าร่างข้อตกลงดังกล่าวจะเรียบร้อยภายในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนเสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณาเพื่อเริ่มโครงการฯ ต่อไป เพราะจากที่ได้สอบถามครูในจังหวัดต่างๆ พบว่ามีจำนวนมากที่อยากเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อลดภาระการชำระหนี้ในแต่ละเดือนลง” นายพินิจศักดิ์กล่าว
