นายดาเรศ พลศักดิ์ อายุ 48 ปี เจ้าของศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ กล่าวว่า ในช่วงหน้าแล้งนี้ ตนจะเพาะเห็ดขอนขาวเป็นหลัก เนื่องจากว่าเห็ดขอนขาวเป็นเห็ดที่ชอบอากาศร้อนจัด จะรดน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนำเอาทรายและน้ำไว้ในท่อและบ่อที่เพาะเห็ด เพื่อเป็นการให้ความชื้นกับเห็ด นอกจากนี้แล้วตนยังเลี้ยงกบคอนโด โดยการนำเอายางรถยนต์เก่ามาวางเรียงเป็นชั้นเพื่อเลี้ยงกบ และเลี้ยงปลาดุกในวงบ่อ ซึ่งน้ำที่เน่าเสียจากบ่อปลาดุกก็จะนำเอาไปใช้ในการรดพืชผักที่ปลูกในสวน
ส่วนวัสดุเหลือใช้อื่นๆ เช่น โถส้วมเก่าและถังพลาสติกเก่า ตนก็จะนำมาดัดแปลงใช้ในการปลูกผักกาดเขียว เป็นการใช้วัสดุทุกอย่างที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ ซึ่งสามารถที่จะใช้การได้ดีตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยพืชผลต่างๆ ตนจะนำเอาไปใช้ในการทำอาหารให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักในรีสอร์ตแห่งนี้ รวมทั้งใช้เป็นอาหารเลี้ยงตนเองและครอบครัว หากมีผลผลิตเหลือก็จะนำเอาไปขายสร้างรายได้ในหน้าแล้งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
นายศักดา กล่าวว่า ขณะนี้ในเขตต.ละทาย อ.กันทรารมย์ มีการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ทุกหมู่บ้านแล้ว โดยในบ้านละทายแห่งเดียวนี้มีการนำเอาหลักการนี้มาใช้แล้วกว่า 30 ครอบครัว ส่งผลให้ชาวบ้านมีอาหารการกินที่เพียงพอในหน้าแล้ง อีกทั้งมีผลผลิตส่งไปขายให้กับรพ.กันทรารมย์ และตลาดสด อ.กันทรารมย์ เป็นประจำทุกวัน ซึ่งขณะนี้มีคณะศึกษาดูงานจากหมู่บ้านต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด พากันมาศึกษาดูงานจำนวนมาก ส่งผลให้ผลผลิตที่ชาวบ้านผลิตขึ้นมาไม่พอขาย ทำให้ชาวบ้านที่เห็นว่าการยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ สามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดีและทำได้ง่าย จึงพากันมาดำเนินการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ในครัวเรือนกันเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอบต.ละทายได้ให้การสนับสนุนในทุกด้านอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ในหน้าแล้งปีนี้ รวมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านอย่างยั่งยืนอีกด้วย