กรณีที่นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย เปลี่ยนแปลง ตำแหน่งข้าราชการระดับ 9 จำนวน 3 ราย คือ นายนิพนธ์ พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ไปเป็น ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทสจ.) ตรัง นายมนต์สังข์ ภู่ศิริวัฒน์ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปเป็น ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ทช. นายสมศักดิ์ พิริยโยธา ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน เป็น ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งการให้นายมนต์สังข์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันในหมู่ข้าราชการทส.ว่าเป็นคนสนิทของนายเกษมสันต์ ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลแทนนายนิพนธ์นั้น ถูกคัดค้าน และโจมตีจากข้าราชการทช.อย่างมาก ถึงขั้นมีการโจมตีนายเกษมสันต์ผ่านสังคมออนไลน์ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้ง นายนิพนธ์เอง ได้ทำหนังสือ ถึง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. และนายเกษมสันต์ว่า จะไม่ขอย้ายไปไหน จะอยู่ในตำแหน่งเดิม เป็นการแสดงอารยะขัดขืนที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม นั้น
วันที่ 24 มีนาคม พล.อ.สุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้นายเกษมสันต์ ออกคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ดังกล่าวใหม่เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากเกิดเรื่องนี้ ได้มีความวุ่นวาย ในทช. มีกระแสการต่อต้าน จากข้าราชการในทช. ที่ไม่ต้องการให้มีการโยกย้าย นายนิพนธ์ จำนวนมาก และที่สำคัญ นายนิพนธ์ ได้เข้ามาหารือกับตน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
“ความจริงแล้ว ผมก็ไม่อยากยุ่ง เนื่องจากอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 นั้นเป็นของปลัดทส. แต่ก็อีก เพราะในกฏหมายระบุว่า ให้รัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบทั้งปวงกับสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นภายในกระทรวงของตัวเอง ผมจึงต้องเข้ามาดูแล เพราะไม่ต้องการให้ปัญหาบานปลาย โดยนายนิพนธ์ มาขออยู่ในตำแหน่งเดิมเพราะ ไม่ต้องการโยกย้ายไปอยู่ จ.ตรัง เนื่องจากเดิมที เขาขอย้าย ขอย้ายไปเป็น ทสจ.ภูเก็ต เพราะครอบครัวอยู่ที่นั้่น การไปอยู่ ตรัง ต้องใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมง และไม่สะดวก ผมจึงได้แจ้งปลัด ให้ไปพิจารณาใหม่ เพราะการนำคน คนเดียวมาลงใน ทช.แล้วเกิดผลกระทบถึง 3 คน ไม่คุ้ม ซึ่งปลัดทส.ได้เรียกประชุม เรื่องนี้ไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมาแล้ว ก็ได้แจ้งว่า จะทำคำสั่งขึ้นมาใหม่ เพราะตามหลักแล้วจะคำสั่งเดิม ยกเลิกไม่ได้ แต่สรุปคือ จะไม่มีการโยกย้ายเกิดขึ้น ในทช.ทุกอย่างเป็นปกติ ทั้งนี้ตัวนายนิพนธ์เอง ก็มีความสามารถเฉพาะด้านเรื่องปะการัง อยู่ที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนั้นแล้ว นายมนต์สังข์ จะกลับไปทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีทส.หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้อง เพราะตนทำงานได้โดยไม่ต้องมีนายมนต์สังข์ก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ ตำแหน่ง ทสจ.ก็ยังว่างอีก 2 จังหวัด คือ จ.ตรัง และอุดรธานี บอกปลัดทส.ไปว่า เอานายมนต์สังข์ ที่ จังหวัดใด จังหวัดหนึ่งก็ได้
เมื่อถามต่อว่า เมื่อมีการทบทวนการย้ายในทช.แล้ว จะมีการทบทวนการแต่งตั้ง ทสจ.จำนวน 18 ตำแหน่ง ซึ่งล้วนแต่เป็นศิษฐ์เก่าจาก โรงเรียนป่าไม้แพร่ได้ไปทั้งหมด โดยไม่มี ข้าราชการที่เป็นศิษฐ์เก่า คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เลยแม้แต่คนเดียว หรือไม่ รัฐมนตรีทส.กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่มีการทบทวน เพราะคำสั่งออกไปแล้ว
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาการโยกย้ายข้าราชการ ถือว่ามีความสำคัญมาก ต้องมีความรอบคอบรัดกุม ไม่ส่งผลกระทบ ขณะนี้ ทส.กำลังจะเปิดสรรหา ข้าราชการระดับ 9 ซึ่งเป็นระดับ รองอธิบดี อีก 7 ตำแหน่ง เช่น รองอธิบดีกรมอุทยานฯ รองอธิบดีกรมป่าไม้ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น รวมทั้งจะเปิดรับการสรรหา ผู้อำนวยการน้ำภาค อีกกว่า 10 ตำแหน่ง ที่เป็นข้าราชการระดับ 9 รวมกว่า 20 ตำแหน่ง ดังนั้น ตนจึงได้แต่งตั้งให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รองปลัดทส.ทำหน้าที่ประธานสรรหาแทนนายเกษมสันต์ และให้แต่งตั้งกรรมการสรรหา ให้ครบ 7 คน เพื่อความโปร่งใส ให้กรรมการได้มีวิจารณญาณให้คัดเลือกกันอย่างเต็มที่
“ไม่ได้รังเกียจอะไร นายเกษมสันต์ แต่อยากให้คนอื่นเข้ามาทำหน้าที่บ้าง เพื่อแบ่งเบาภาระ เพราะเมื่อการสรรหาข้าราชการระดับ 9 เรียบร้อยแล้ว เรื่องก็ต้องมาถึงทั้งผมและปลัดอยู่ดี”พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าว
