“ณัฐวุฒิ” ขอ “มีชัย” ใจเย็นๆ ชี้ การแสดงออกของนศ.เป็นเรื่องธรรมดา-มีทุกยุค ย้ำ ใครจะรับร่างรธน.เพื่อให้ลต.โดยเร็วแบบไปตายเอาดาบหน้าควรคิดให้ดี
เมื่อวันที่ 6 เมษายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. กล่าวว่า อยากให้นายมีชัยและผู้มีอำนาจทั้งหลายใจเย็นๆ เพราะการแสดงออกของนักเรียนนักศึกษาในสถานการณ์ที่บ้านเมืองปกครองโดยอำนาจพิเศษเป็นเรื่องธรรมดาที่มีทุกยุคทุกสมัย การชี้นำสังคมว่าความเคลื่อนไหวแบบนี้มีเบื้องหลังและจะใช้มาตรการต่างๆ เข้าจัดการนั้น เท่ากับฝ่ายผู้มีอำนาจกำลังแสดงตัวเป็นคู่ต่อสู้ของเยาวชน ต้องเข้าใจว่าเจตนาที่จะไม่ให้รัฐธรรมนูญผ่านเป็นเรื่องเบื้องหน้าที่หลายคนหลายกลุ่มแสดงออกเปิดเผย ไม่มีเบื้องหลัง เพราะเนื้อหาหลายส่วนขัดหลักการประชาธิปไตย และเชื่อว่าหากบังคับใช้จะเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะการตัดสิทธิ์เรียนฟรีของนักเรียนระดับม.ปลาย ซึ่งส่งผลกระทบกับคนจำนวนมาก ควรเปิดกว้างให้นักเรียนซึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรงได้อธิบาย ทั้งนี้ โดยส่วนตัวนั้นตนก็ไม่เห็นด้วย ถ้าจะเพิ่มสิทธิ์ชั้นเด็กเล็กก็ไม่ควรตัดสิทธิ์เด็กโต เพราะส่วนใหญ่องค์กรปกครองท้องถิ่นมีงบประมาณศูนย์เด็กเล็กอยู่แล้ว ถ้ารัฐจะต่อยอดจากตรงนี้ก็ไม่น่าจะเป็นภาระจนต้องกระชากโอกาสจากชีวิตเด็กม.ปลาย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อเห็นเจตนาของแม่น้ำ 5 สายในการเสนอประเด็นคำถามพ่วงก็ยิ่งน่าห่วงว่า มีความพยายามขยายอำนาจที่เชื่อมโยงจากอำนาจปัจจุบันออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด ถ้าผ่านประชามติจะยิ่งทำให้วิธีคิดนี้มีอิทธิพลอย่างยิ่งในการทำกฎหมายลูกให้ขี้เหร่ไม่แพ้กฎหมายแม่ ทั้งนี้ นายมีชัยอาจยึดติดกับบรรยากาศปี 2521 ที่เนื้อหารัฐธรรมนูญแบบนี้ออกมาบังคับใช้ได้ไม่ยาก และอยู่ได้นานหลายปี แต่ในปัจจุบันควรเข้าใจว่า เนื้อหาในร่างและคำถามพ่วงที่พูดกันอยู่เรียกแขกมากขึ้นทุกที การจะใช้อำนาจเต็มที่บวกกับคำอธิบายง่ายๆ ว่ารับร่างจะได้เลือกตั้งเร็วไม่แน่ว่าจะกำหนดผลประชามติได้ เพราะหลายคนในรัฐบาลยืนยันตรงกันว่า ผ่านไม่ผ่านก็เลือกตั้งปี 60 ดังนั้น การอ้างกรอบเวลาช้าเร็วจึงไม่มีความหมาย
“ใครที่คิดจะรับร่างเพื่อให้เลือกตั้งเร็วแบบไปตายเอาดาบหน้าก็ต้องทบทวนให้ดีว่า ถ้าผ่านจะได้ดาบเล่มเดิมคืออำนาจปัจจุบัน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นปี 60 หรือช้ากว่า แต่ถ้าไม่ผ่านจึงจะมีโอกาสเดินไปถึงดาบหน้า การเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าโรดแมป และมีโอกาสที่จะเกิดรัฐธรรมนูญถาวรจากอำนาจอธิปไตยของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
