‘ชลน่าน’ เข้าพบจนท.ในมทบ.38 ระบุขันไม่ผิดแต่ผิดที่แจก ห่วงอาจถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง

วันที่ 8 เมษายน เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบในพื้นที่ มณฑลทหารบกที่ 38 (กกล.รส.มทบ.38) นัดนายชลน่าน ศรีแก้ว อดีตส.ส.น่าน เขต 2 พรรคเพื่อไทย เข้ารายงานตัวในค่ายสุริยพงษ์ อ.เมืองน่าน กรณีตรวจยึดขันน้ำสีแดง ระบุข้อความและลายเซ็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ที่สำนักงานอดีต ส.ส.น่าน 3 เขตว่า นายชลน่านพร้อมด้วยภรรยาได้สักการะพระอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ อดีตเจ้าผู้ครองนครน่านที่บริเวณหน้าค่าย และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่บริเวณหน้าค่ายทหารดังกล่าวว่า พล.ต.ชัยณรงค์ได้แจ้งให้เข้าพบตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน แต่ตนติดภารกิจที่กรุงเทพฯ จึงได้รับอนุญาตเลื่อนมาพบวันนี้ โดยก่อนหน้านี้นายวัลลภ สุปริยศิลป์ บิดาของนายณัฐพงษ์ อดีตส.ส.น่าน เขต 3 เข้าพบปะเพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือการเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้าใจว่าตนก็คงมาในแนวลักษณะเดียวกัน ส่วนนางสิรินทร รามสูต อดีตส.ส.น่าน เขต 1 จะเข้าพบวันพรุ่งนี้ (9 เมษายน)

นายชลน่านกล่าวว่า ตนได้รับทราบข่าวมีนายทหารได้รับมอบอำนาจจาก ผบ.กกล.รส.มทบ.38 เข้าแจ้งข้อหาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองน่าน กล่าวหาการตรวจยึดขันแดงดังกล่าว เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มีนางสิรินทรเป็นผู้กระทำความผิดฐานเป็นกบฏต่อแผ่นดิน มีตนและนายณัฐพงษ์เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดนั้น ส่วนข่าวที่จะให้เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้นำการสร้างชาติอย่างสร้างสรรค์นั้น ตรวจสอบแล้วเป็นหลักสูตรให้ มทบ.แต่ละพื้นที่เตรียมสถานที่ไว้ แต่ที่จ.น่านยังไม่มีแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะให้พวกตนเข้าอบรมหรือไม่ แต่สังเกตท่านผู้นำ คสช. เตรียมไว้สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วยลักษณะพูดไม่รู้เรื่อง หากจะให้ตนเข้าอบรมก็พร้อมเพราะทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดว่าขันแดงพร้อมกับคำอวยพรและมีชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีจะเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะทำตามประเพณีสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยมาตลอด ตั้งแต่ปี 2554-2557

“ขันน้ำเป็นของฝากที่ทางเหนือเรียกว่าสูมาคารวะ สระน้ำดำหัวให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ในขันก็จะมีผ้าขนหนู หรือสบู่ ยาสีฟัน ซึ่งทำมาเป็นประจำ แต่ปีนี้ภายใต้ภาวะสถานการณ์อย่างนี้มันอาจถูกตีความหมายได้หลายมุมมอง เราจะไม่เถียงข้อกฎหมายแต่มันคือข้อเท็จจริง” นายชลน่านกล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตนเองต้องระมัดระวังการทำกิจกรรมทางสังคมอยู่ตลอด เนื่องจากเคยถูกเรียกเข้าค่ายกักกันเมื่อเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 อยู่ที่ค่ายสุริยพงษ์ 1 คืน แล้วไปอยู่ศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศที่ค่ายวังน้อย กองทัพบก 3 คืน 4 วัน ได้บันทึกกับทาง คสช. ว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามสนับสนุนแสดงออกทางการเมืองโดยเฉพาะการแสดงเป็นกลุ่มคณะ และเขาขอร้องห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมืองลักษณะประชุม สัมมนา อบรมต่างๆ

201604081526503-20021028190217

Advertisement

ต่อมามีนายทหารมาเชิญนายชลน่านไปพบ พล.ต.ชัยณรงค์ที่ห้องรับรองอาคาร มทบ.38 บรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นกันเองและให้เกียรติ โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์และสอบถามข้อสงสัย แต่อนุญาตให้นำเสนอเป็นข่าวได้เพียงบางเรื่อง เช่น การนัดพบกับอดีต ส.ส.น่าน เป็นปกติที่เคยเจอกันบ่อยๆ ในงานสังคม การตรวจยึดขันแดงดังกล่าวเป็นคำสั่งจากหน่วยเหนือให้ติดตามความเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคเหนือ ความผิดไม่ใช่อยู่ที่ตัวขันแต่เป็นลักษณะของการกระทำผิดความมั่นคง หากแจกขันน้ำไปถึงมือชาวบ้านสำเร็จก็จะเป็นเหตุให้ผู้ไม่หวังดีปลุกปั่นไปก่อสถานการณ์ความวุ่นวายได้ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีดังกล่าว โดยพล.ต.ชัยณรงค์ยังย้ำเตือนด้วยว่า ใครที่ได้รับแจกขันน้ำไปทำกิจกรรมแบบเงียบๆ ก็ไม่เป็นไร แต่หากปรากฏเป็นข่าวหรือสื่อมวลชนจะถูกดำเนินคดีทุกราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหารือแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ชัยณรงค์จึงอนุญาตให้นายชลน่านเดินทางกลับ โดยนายชลน่านเปรยว่าหนักใจที่ให้ อดีต ส.ส. รับผิดชอบพื้นที่ของตน หากมีใครนำขันน้ำลักษณะเดียวกับเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้แต่มีจำนวนไม่ครบ จะถือว่าอดีต ส.ส.ในพื้นที่นั้นได้แจกจ่ายให้ชาวบ้านสำเร็จแล้ว ตนเป็นห่วงอาจเป็นสาเหตุให้กลั่นแกล้งกันทางการเมืองได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image