แม่ทัพใหญ่ “เอกราช” ส.ส.ภาคอีสานตอนบนแถลงข่าวผู้บริหาร พปชร.ให้ความเป็นธรรมจัดสรรตำแหน่ง ใน ครม.ให้เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้อย่างทั่วถึงทุกภาค ถ้าไม่อย่างนั้นขอขับเคลื่อนใหม่กับผู้ที่มีอุดมการณ์มีความเป็นธรรมให้ตำแหน่งใน ครม. แต่ไม่ลาออกจาก ส.ส.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ อดีตหนึ่งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน เป็นทั้งแม่ทัพวางแผนสู้รบทุกรูปแบบใน 12 จังหวัด ภาคอีสาน กระทั่งทำคะแนนแบบบัญชีรายชื่อได้ถึง 17 คน และ ส.ส.เขต 5 คน เปิดแถลงข่าวที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมทีมงานศูนย์ประสานงานพรรค พปชร. จ.ขอนแก่น โดยนายเอกราชกล่าวว่า ทีมบริหารพรรค พปชร.กำลังขับเคลื่อนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งกลุ่มของ ส.ส.ภาคอีสาน 20 จังหวัด มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งใน ครม.ให้กลับภาคอีสานตอนบน ประกอบด้วย จ.อุบลราชธานี ศูนย์จังหวัดอุบลราชธานี และ จ.ขอนแก่น ศูนย์จังหวัดขอนแก่น ทั้งสองศูนย์รวมกันได้คะแนน 1,364,761 คะแนน คิดเป็น ส.ส.ได้ 19 คน หัก ส.ส.เขต 2 คน เหลือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ได้มาจากศูนย์และศูนย์ขอนแก่น จึงต้องขอแสดงความรู้สึกสื่อออกไปที่เลือกพรรค พปชร. การจัดสรรทีมบริหารประเทศ พวกเรามอบหมายอำนาจให้เป็นของผู้บริหารพรรค พปชร. โดยไม่ก้าวก่าย สร้างความหนักใจให้ผู้บริหาร แต่ติดตามข่าวจากสื่อมวลชนมาโดยตลอดไม่พบโผ หรือโพย ที่ ส.ส.ภาคอีสาน 20 จังหวัด ที่จะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม จึงขอเรียนถึงผู้บริหารพรรคว่า ถ้าทางพรรคไม่ให้ความสำคัญที่จะจัดสรรตำแหน่งให้กับ ส.ส.ภาคอีสานตอนบน ใน ครม.พวกเราถือว่าทางพรรค พปชร.ปล่อยให้ ส.ส.ภาคอีสานตอนบนเดินไปอย่างว้าเหว่ และไม่ได้รับความเป็นธรรม พวกเราจะทบทวนบทบาทในการร่วมกิจกรรมกับทางพรรค พปชร.ในอนาคตต่อไป
นายเอกราชกล่าวอีกว่า พวกเราปรึกษากันแล้วอยากให้ผู้บริหารของพรรค พปชร.ดำเนินการจัดสรรตำแหน่งใน ครม.ให้เหมาะสมและเป็นธรรมอย่างทั่วถึง ถ้าหากไม่มีตำแหน่งที่จะไปบริหารในทีมรัฐบาลความหวังของพี่น้องประชาชนในภาคอีสานตอนบน ก็จะเป็นความหวังที่เลือนราง หลักลอย และ ส.ส.ภาคอีสานตอนบนจะไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนได้อย่างไรว่าจะร่วมพัฒนา จัดสรรงบประมาณ บริหารจัดการพื้นที่ในภาคอีสานตอนบน ตามที่ไปสัญญาไว้ในช่วงที่หาเสียงครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่เป็น ส.ส.แต่ไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่ายในการจัดสรรงบประมาณ ตามรัฐธรรมนูญ ม.158 ที่ได้ห้าม ส.ส.เข้าไปก้าวก่ายจัดสรรงบประมาณแต่งตั้งโยกย้ายอะไรต่างๆได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่อำนาจโยกย้ายของ ส.ส. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการในระบอบของรัฐสภาเท่านั้น
“พวกเราออกมาพูดครั้งนี้ เพื่อขอเรียกร้องไปถึงผู้บริหารพรรค พปชร.ว่า การจัดสรรตำแหน่งในคณะรัฐบาลควรจะคำนึงถึงภาคส่วนต่างๆทั่วประเทศ โดยให้ความสำคัญอย่างทั่วถึงด้วย โดยภาคอีสานมีทั้งหมด 20 จังหวัด ได้คะแนนมากกว่า 2 ล้านกว่าคะแนน ใน 8 ล้านกว่าคะแนน และทาง จ.นครราชสีมา ได้รับตำแหน่งใน ครม.ไปแล้ว แต่ทางภาคอีสานตอนบนไม่มีตำแหน่งใน ครม.แม้แต่คนเดียวที่จะเข้าไปร่วมขับเคลื่อนนโยบายของพรรค พปชร. และในการบริหารประเทศโดยเฉพาะภาคอีสานตอนบนได้ พวกเราจึงขอเรียกร้องไปถึงผู้บริหารของพรรค พปชร.ให้คำนึงถึงความเท่าเทียม และความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย ที่จะดูแล ส.ส.อย่างทั่วถึงทั้งประเทศ” นายเอกราชกล่าว
นายเอกราชกล่าวย้ำว่า พวกเราที่เป็น ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.ในภาคอีสาน 20 จังหวัด ที่ออกมาพูดวันนี้เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจัดสรรตำแหน่งใน ครม. จึงขอความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง และภูมิใจพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มีผู้บริหารบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีอยู่ทุกภาคในประเทศไทย แม้อีสานมี ส.ส. 2 คน ก็ต้องมีรัฐมนตรี 1 คน เพื่อที่จะขับเคลื่อนนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ และสร้างพรรคของเขาต่อไป แต่ พปชร.คิดเป็น ส.ส.ในภาคอีสานตอนบน 20 จังหวัด มีมากกว่าพรรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจัดสรรตำแหน่งใน ครม.แม้แต่คนเดียว จึงขอสื่อไปถึงผู้บริหาร พปชร.ดูแล ส.ส.ในภาคอีสานและให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราที่เป็น ส.ส.ภาคอีสานทั้งหมดจะทบทวนตัวเอง พร้อมกับขับเคลื่อนใหม่กับพรรค พปชร.ในรูปแบบใหม่ต่อไป ซึ่งไม่ใช่การลาออก แต่จะทำอย่างไรขอปรึกษาหารือกันของ ส.ส.ภาคอีสานตอนบนก่อน และลงมติร่วมกันว่าจะขับเคลื่อนไปในแนวทางที่เห็นสมควร ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามมติของพรรคก็ได้ ขอย้ำว่าไม่ใช่การลาออกเด็ดขาด แต่จะไปร่วมงานกับผู้ที่มีอุดมการณ์และมีความเป็นธรรมให้กับ ส.ส.กลุ่มภาคอีสานตอนบน
