…แม้จะยุ่งยากใจ เพราะ “วันเลือกตั้ง” ดูจะยากกำหนดแน่นอน เนื่องจากไม่เพียงการเปลี่ยนผ่านจากควบคุมด้วย “กำลังและอาวุธ” มาเป็นควบคุมด้วย “กฎหมาย” มีตัวแปรมากมายที่ยากจะทำให้ลงตัว
ด้วยกระทั่ง “แม่น้ำทั้ง 5 สาย” ยิ่งนับวันดูจะไหลไปคนละทิศละทางทว่าการเปิดทางให้พรรคการเมืองแสดงบทบาท ยังยากจะรับประกันความเสี่ยงว่ารัฐประหารจะ “ไม่เสียของ” การจัดการกับ สมชัย ศรีสุทธิยากร ที่ออกมาเรียกหาความสำคัญให้ตัวเองด้วยการชี้ให้เห็นแนวโน้มว่า “การเลือกตั้ง” น่าจะไม่เป็นไปตามประกาศล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมทำให้ตีความได้ว่า “วันเลือกตั้ง” ยังเป็นเรื่อง “อ่อนไหว” ในความคิดของผู้มีอำนาจ
…การนำพาประเทศช่วงเปลี่ยนผ่านจากใช้อาวุธและกำลังควบคุม ไปสู่สร้างโอกาสทางอำนาจด้วยกฎหมาย จำเป็นอย่างยิ่งต้องรักษา “เอกภาพทางอำนาจ” ไว้จนกว่าจะแน่ใจว่า “เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้” การนำประเทศสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะด้วยเขียนกฎหมายเพื่อกำหนดโครงสร้างที่ควบคุมได้ไว้อย่างไร แค่ไหน แต่ที่สุดแล้ว “อำนาจส่วนหนึ่งต้องถูกคืนให้ประชาชน” อันหมายถูกปล่อยมานอกเหนือการควบคุม หากจะไม่ให้ “เสียของ” จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง “เด็ดขาด ชัดเจน” กลไกรัฐที่นำความคิดผู้คนไปอีกทาง เป็นเรื่องที่ปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้ ชะตากรรมของ สมชัย ศรีสุทธิยากร ย่อมเป็นบทเรียนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตระหนักว่า “อำนาจยังคงอยู่เต็มร้อย เพียงแต่จะเลือกใช้อย่างไร”
…ความยุ่งยากของการเขียนกฎหมาย แล้วเสี่ยงต่อถูกการตีความว่า “ปล่อยให้ประกาศใช้โดยขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด” หากเกิดขึ้นย่อมเสี่ยงต่อความผิดที่จะตัดสินในอนาคต จำเป็นต้อง “เคลียร์ให้ขาด” ทางหนึ่ง “เคลียร์สาระของกฎหมาย” แต่การเคลียร์ “การตีความ” เป็นการปิดช่องโหว่ให้สนิท ไม่ว่าใครที่ตอกลิ่มให้เกิดช่องก่อความเสี่ยง ย่อมต้องตระหนักว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
…อีกสัญญาณที่ส่งสะท้อนให้เห็นว่า “ทิศทางใดเป็นความอ่อนไหว” และอาจจะเป็นเรื่องถูกมองว่าเป็น “อุปสรรค” คือการขับเคลื่อนแนวคิด “เสรีนิยม” อย่างเป็นทางการ “พรรคอนาคตใหม่” ที่เปิดตัวขึ้นมา
แม้จะไม่มีกิจกรรมที่หวือหวาอะไรมาก แต่ชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ “กลุ่มก่อตั้ง” เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกฝ่ายหันมาจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องเพราะจะเป็นคำตอบว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยม” จะเปิดเสรีภาพให้ความคิดออกมาแสดงตัวได้กว้างขวางแค่ไหน
…อีกเรื่องที่เป็นความอ่อนไหว “รัฐบาล คสช.” มีความชอบธรรมที่จะเข้ามาบริหารประเทศ เหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งคือ “เพื่อปราบปรามการทุจริต” ทว่าถึงวันนี้ ไม่ว่าใครก็ตามในรัฐบาล พูดถึง “การเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น” กลายเป็นก่อเสียง “ถอนหายใจหนักๆ ให้กับคนที่ได้ยิน” และทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า “โกง” หากเป็นในที่สาธารณะ คนพูดและคนฟังต่างจะหลบตากัน เพื่อเตือนให้ตั้งสติ แต่หากเป็นที่ทางซึ่งให้ความรู้สึกว่า “เป็นส่วนตัว” จะเกิดสภาวะแบบ “กระซิบกันให้แซ่ด” เมื่อเรื่อง “ต่อต้านคอร์รัปชั่น” ที่เคยประกาศกันด้วยท่าทีองอาจ กลายเป็นเรื่อง “อ่อนไหวที่จะหยิบมาพูด” สัญญาณนี้ย่อมน่าสนใจยิ่ง
…เริ่มแล้ว “FUN FOOD FAIR แม่มณีชวนชิม” มหกรรมอาหารอร่อยที่รวมร้านดังระดับตำนานทั้งจากทุกเขตใน กทม. และจากทุกภาคในประเทศไทยมารวมตัวกันในที่เดียว “เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ” งานมีไปถึงวันอาทิตย์ที่ 25 มี.ค. สำหรับนักนิยมของอร่อย โอกาสแบบนี้ อย่าพลาดเชียว
ชโลทร