จอดป้ายประชาชื่น : ลุ้น

ถือเป็นสัปดาห์ของการเคาต์ดาวน์เข้าสู่วันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานบนคลื่นความถี่ย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ ระหว่าง บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ แคท ในวันที่ 15 กันยายนนี้ แต่ทว่า ยังมียอดลูกค้าหลงเหลืออยู่บนคลื่นความถี่ดังกล่าว ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 อีกราว 346,000 เลขหมาย ซึ่งหากทาง กสทช.ใคร่ครวญแล้วไม่เห็นชอบให้ดีแทคเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน

ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นคนละกรณีกับ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่เข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเมื่อปี 2556 ด้วยเหตุที่ กสทช.จัดการประมูลคลื่นความถี่ล่าช้า ซึ่งเทียบไม่ได้กับการจัดประมูลคลื่นความถี่ทั้ง 2 ครั้งล่วงหน้าก่อนวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานไปเมื่อเร็วๆ นี้

เมื่อ กสทช.ส่อเค้าลางไม่เห็นชอบให้ดีแทคเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน เป็นเหตุให้ดีแทคหวั่นใจว่า ลูกค้าภายใต้สัญญาสัมปทานที่ดีแทคระบุว่าส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ห่างไกลจะได้รับผลกระทบ “ซิมดับ” จึงเดินหน้ายื่นฟ้องเพิกถอนมติ กสทช. และขอคุ้มครองลูกค้าชั่วคราวต่อศาลปกครอง เพื่อขอเข้าสู่มาตรการเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้สามารถใช้บริการได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากยอดผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือปี 2560 พบว่าปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือจำนวน 121.53 ล้านเลขหมาย โดย กสทช.ถือเป็นหนึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ดูแลผู้ใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ฉะนั้น หากลูกค้าที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานจะได้รับผลกระทบ   จึงไม่ใช่เฉพาะดีแทคเพียงลำพังที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

Advertisement

อย่างไรก็ตาม คงต้องอดใจรอความชัดเจนจากทาง กสทช.ที่จะนัดถกประเด็นปัญหาดังกล่าวในวันที่ 12 กันยายนนี้อีกครั้ง และครั้งนี้ กสทช.คงต้องถกกันนานอยู่สักหน่อย เนื่องจากมีลูกค้าจำนวน 346,000 เลขหมายเป็นตัวประกัน

อัมพวัน อยู่กระทุ่ม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image