หลายเหตุผลที่คนจะคิดถึง “ซาลาห์”

ฟุตบอลโลก 2018 ดำเนินมาเกือบครึ่งทาง เริ่มเห็นภาพการเข้ารอบตกรอบของแต่ละทีมชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
เวิลด์คัพหนนี้ นักเตะหลายคนแจ้งเกิดจนเป็นที่จับตามองในเวทีลูกหนังโลก แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เอาชื่อเสียงมาทิ้งเพราะเล่นไม่ได้ตามมาตรฐานระดับสโมสรที่ตัวเองสร้างไว้

กรณีของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติอียิปต์ อาจจะไม่ถือว่าเข้าข่ายหลังเสียทีเดียว เพราะก่อนมาแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียไม่ถึงเดือน ปีกซุป’ตาร์จาก ลิเวอร์พูล ได้รับบาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายหลุดจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับ รีล มาดริด

แม้จะเร่งรักษาจนฟิตพอจะลงสนามได้แล้ว แต่สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ จึงทำเท่าที่จะทำได้ ด้วยใจที่เกินร้อย

ซาลาห์ปิดฉากฟุตบอลโลกพร้อมๆ กับความผิดหวังโดยที่ทำอะไรได้ไม่มากนัก ผิดกับในรอบคัดเลือกซึ่งแข้งวัย 26 ปีเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม ยิงไป 5 ประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 ประตูสำคัญในนัดตัดสินกับคองโก จนได้รับฉายา “อียิปต์คิง” จากเพื่อนร่วมชาติ

Advertisement

ยิ่งซาลาห์ไประเบิดฟอร์มสุดยอดในการประเดิมฤดูกาลแรกกับหงส์แดงในพรีเมียร์ลีก ยิ่งทำให้คนคาดหวังว่าเขาจะวาดลวดลายกระหึ่มโลกในเวทีใหญ่ที่สุดอย่างเวิลด์คัพ แต่ทุกอย่างก็กลับตาลปัตรไปหมด ทิ้งไว้แต่ความผิดหวังและเสียดายของชาวอียิปต์กว่า 80 ล้านชีวิต รวมถึงแฟนบอลที่อยากเห็นดาวเตะฝีเท้าเยี่ยมโชว์ฟอร์มสมมาตรฐานของตัวเอง

อีกหนึ่งประเด็นที่คนเสียดายกันมากๆ คือ โอกาสในการเป็นแคนดิเดทชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม บัลลงดอร์ ซึ่งแฟนๆ และสื่อจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าผลงานยอดเยี่ยมในระดับสโมสรของซาลาห์ในฤดูกาลที่จบไปน่าจะทำให้เขาเบียดแย่งโหวตจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของรีล มาดริด และ ลิโอเนล เมสซี่ ของบาร์เซโลน่าแบบหวังผลได้

Advertisement

ฤดูกาลที่ผ่านมา ซาลาห์คว้ารางวัลยอดเยี่ยมส่วนบุคคลทั้งใหญ่เล็ก ตั้งแต่นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน ประตูยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ไปจนถึงนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของหลายสถาบัน รวมแล้ว 34 รางวัล

ผลงานในเกมลีกของซาลาห์ ลงสนาม 36 นัด ยิงไป 32 ประตู แอสซิสต์อีก 10 ลูก ช่วยให้หงส์แดงจบอันดับ 4 พรีเมียร์ลีก กับรองแชมป์ยุโรป ส่วนเมสซี่ ลงเล่น 36 นัด ยิงได้ 34 ประตู กับ 15 แอสซิสต์ ร่วมคว้าแชมป์ลาลีก้า กับโกปา เดล เรย์

ส่วนโรนัลโด้ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บเป็นระยะๆ ลงเล่น 27 นัด ยิงได้ 26 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ แม้ผลงานในประเทศไม่สวยหรู แต่เป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 3 ติดต่อกัน

เรียกว่าผลงานของซาลาห์สมน้ำสมเนื้อกับ 2 แข้งเทพแบบน่าจะสู้กันได้ เหลือแค่ผลงานระดับทีมชาติให้มาเปรียบเทียบกันเพิ่มเติมในฟุตบอลโลกเท่านั้น

แน่นอนว่า แฟนๆ คงไม่ได้คาดหวังถึงขั้นจะได้เห็นอียิปต์ก้าวไปเป็นแชมป์ แต่อย่างน้อยการได้เข้ารอบลึกโดยที่ซาลาห์เป็นตัวชูโรงน่าจะช่วยเพิ่มคะแนนเสียงให้เขาได้มาก

กลายเป็นว่าซาลาห์เจ็บจนเล่นไม่ไหว อียิปต์ตกรอบแรก กลายเป็นเวทีประชันฝีเท้าของอีก 2 คนที่เหลือแทน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ดูแนวโน้มแล้ว โรนัลโด้อาจจะเข้าวินในถ้วยบัลลงดอร์ของปีหน้าอีกเช่นเคย

การปิดฉากเวิลด์คัพของซาลาห์ยังมีประเด็นน่าผิดหวังเกิดขึ้นในช่วงท้าย เมื่อ ซีเอ็นเอ็น สื่อใหญ่ของโลก และอีกหลายสำนัก พากันตีข่าวว่า แข้งหงส์วัย 26 ปีอาจตัดสินใจอำลาทีมชาติอย่างกะทันหัน เพราะไม่พอใจที่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง

กรณีที่ รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน เข้ามาผูกมิตรสัมพันธ์แนบแน่นด้วยภาษากายอย่างการเดินเคียงข้างกัน การจับมือแบบคนสนิท การมอบเค้กวันเกิดขนาดใหญ่ การจัดเลี้ยงปลอบใจทีมชาติอียิปต์ ไปจนถึงการแต่งตั้งซาลาห์เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ของรัฐเชเชน

แม้ว่าประเด็นนี้ทางสมาคมฟุตบอลอียิปต์จะรีบออกมาปฏิเสธข่าวอย่างรวดเร็ว แต่การที่สื่อใหญ่อย่างซีเอ็นเอ็นประโคมข่าวไปทั่วโลกย่อมทำให้ชื่อเสียงของซาลาห์เสียหายไปไม่น้อย ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม

ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นน่าผิดหวังที่ทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่ค่อยน่าจดจำสำหรับแข้งดังรายนี้สักเท่าไรนัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image