การที่ รีล มาดริด ประกาศแต่งตั้ง ยูเลน โลเปเตกี กุนซือทีมชาติ สเปน ไปเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในฤดูกาลหน้า ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์มากมายกับทีมกระทิงดุมากมายจริงๆ
สหพันธ์ฟุตบอลสเปนประกาศปลดโลเปเตกีออกจากตำแหน่งไม่นานหลังจากที่รู้ข่าว ซึ่งเหลือเวลาเพียง 2 วัน สเปนจะต้องฟาดแข้งกับ โปรตุเกส ในนัดเปิดสนาม โดยถือเป็นเกมสำคัญมากของทั้งสองทีม เพราะชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่จะเข้ารอบต่อไปได้ชัดขึ้น
หลายสื่อรายงานตรงกันว่า ก่อนที่จะมีการประกาศปลดโลเปเตกีออกจากตำแหน่ง นักเตะทีมชาติสเปนพยายามที่โน้มน้าวให้สหพันธ์เปลี่ยนใจและใช้บริการของกุนซือวัย 51 ต่อไป แต่ หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฯไม่ฟังคำทัดทานเหล่านั้น
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรรีล มาดริด โดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ทำให้สเปนปั่นป่วนก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นจะต้องรีบประกาศขนาดนั้น ซึ่งเปเรซแสดงให้เห็นว่าในความคิดของเขา รีล มาดริด มาก่อนสเปนอย่างเห็นได้ชัด และยังคงแสดงถึงความยิ่งใหญ่ในการทุ่มเงินล่าตัวนักเตะและผู้จัดการทีมเข้าสู่ทีมแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
แล้วทำไมเปเรซถึงต้องเลือกโลเปเตกีและต้องรีบเปิดตัวขนาดนั้น สาเหตุมาจากว่า รีล มาดริดจ่ายค่าชดเชยในการเซ็นสัญญาครั้งนี้เพียง 2 ล้านยูโร หรือ 74 ล้านบาทเท่านั้น แต่ถ้าจะไปดึง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จาก สเปอร์ส มาคุมทัพ ต้องจ่ายค่าชดเชยถึง 70 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,590 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าถึง 30 เท่านั่นเอง
ผลงานของโลเปเตกีกับทีมกระทิงดุก็ไม่มีที่ติ คุมทัพมา 20 นัด ชนะได้ถึง 14 และเสมอ 6 นัด ยิงได้ 61 ประตู เสียไปเพียง 13 ประตู เป็นกุนซือที่สร้างความมั่นใจให้แฟนบอลได้ว่าโอกาสกลับไปยิ่งใหญ่ของสเปนในฟุตบอลโลกหนนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม
แต่ผู้นำที่ดี ก็ไม่ควรเหยียบเรือสองแคม!
มีการแสดงความคิดเห็นกันว่า เมื่อโลเปเตกีไม่ได้แสดงถึงความซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับทีมชาติแล้ว นักเตะรีล มาดริด ที่เขาจะต้องร่วมงานด้วยจะศรัทธาในตัวเขาแค่ไหน? รวมทั้งตั้งคำถามว่าถ้าข่าวการไปคุมทีมราชันชุดขาวยังไม่ถูกเปิดเผย การจัดตัวนักเตะของทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกจะมีการเอาความเป็นพวกพ้องมาเกี่ยวข้องหรือไม่?
ทีมชาติสเปนชุดนี้มีนักเตะรีล มาดริดอยู่ 6 คน บาร์เซโลน่า 4 คน นอกจากนั้นก็มาจากทีมในลาลีก้า สเปน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ถ้ายังอยู่กับทีมชาติสเปนต่อไป ก็อาจจะโน้มน้าวใจนักเตะดีๆ ให้ย้ายไปเล่นให้รีล มาดริดหลังจบฟุตบอลโลก
การแสดงความเห็นรุนแรงไปจนถึงขั้นว่า เปเรซอยากจะช่วยให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ดังทีมชาติโปรตุเกส ลูกรักในสโมสรรีล มาดริด ได้เปรียบในการดวลกับสเปน จนตัดสินใจป่วนทีมชาติบ้านเกิดของตัวเองในครั้งนี้
อดีตกุนซือกระทิงดุบอกแค่สั้นๆ ก่อนเดินทางกลับบ้านว่า รู้สึกเสียใจมากและหวังว่าสเปนจะเป็นแชมป์โลกได้
เฟร์นานโด เอียร์โร่ เข้ามารับตำแหน่งแทนโลเปเตกี และยืนยันว่าจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในทีมให้น้อยที่สุด เพราะไม่สามารถเปลี่ยนอะไรให้ดีขึ้นได้ในเวลาเพียง 2 วัน
เอฟเฟ็กต์ในตอนนี้คงยังไม่ส่งผลออกมาเป็นรูปธรรม เพราะทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเองต่อไป แต่จะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จากผลงานในสนาม ถ้าชนะโปรตุเกสได้ ความมั่นใจและบรรยากาศที่ดีจะกลับมาได้ไว แต่ถ้าแพ้ ช่วงเวลาที่เหลือก็เป็นงานหนักทีเดียว
ประเด็นที่น่าสนใจหลังจากนี้ ไม่ใช่แค่ผลงานของทีมชาติสเปนเท่านั้น แต่ความมีเกียรติของสโมสรรีล มาดริดในสายตาคนสเปนจะเป็นอย่างไร?
ในรายของโลเปเตกีนั้น ถ้าสเปนประสบความสำเร็จ เครดิตก็คงไม่ได้รับ และถ้าผลงานไม่ดีขึ้นมา ก็จะกลายเป็นแพะรับบาปอย่างไม่ต้องสงสัย
