ฟุตบอลโลก 2018 กลุ่มซี เปรู พบ เดนมาร์ก เวลา 23.00 น. ที่สนามมอร์โดเวีย อารีน่า
11 นักเตะตัวจริงเปรู : ผู้รักษาประตู เปโดร กัลเลส / กองหลัง อัลเบร์โต้ โรดริเกซ, มิเกล ตราอูโค่, คริสเตียน รามอส, ลุยส์ อัดวินคูล่า / กองกลาง คริสเตียน กูเอว่า, เรนาโต้ ตาเปีย, โยชิมาร์ โยตุน / กองหน้า เจฟเฟอร์ซอน ฟาร์ฟัน, อันเดร การ์รินโญ่, เอดิซอน ฟลอเรส
12 นักเตะตัวจริงเดนมาร์ก : ผู้รักษาประตู แคสเปอร์ ชไมเคิล / ซีม่อน เคียร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, เฮนริก ดัลสการ์ด, เยนส์ สทรูเกอร์ ลาร์เซ่น / กองกลาง วิลเลียม ควิสต์, โธมัส เดลานีย์, คริสเตียน อีริกเซ่น / กองหน้า นิโคไล ยอร์เกนเซ่น, ยุสซุฟ ยูรารี่ โพลเซ่น, ซิสโต้
โดยเปรูไม่มีเปาโล เกร์เรโร่ กัปตันทีมคนสำคัญ ที่สามารถอุทธรณ์โทษเรื่องยาเสพติด และสามารถลงเล่นในฟุตบอลโลกหนนี้ได้ก็ตาม ซึ่งมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น
เริ่มเกมเป็นทางฝั่งเปรูที่พยายามโยนบอลเข้าใส่แนวรับของเดนมาร์ก และเริ่มมีโอกาสแรกจากการยิงนอกกรอบของการ์รินโญ่ ในนาทีที่ 12 แต่ว่าชไมเคิ่ลยังพุ่งปัดออกไปได้
จากนั้นในนาทีที่ 29 เป็นโอกาสของเปรูอีกครั้งจังหวะที่การ์รินโญ่ จ่ายทะลุช่องให้ฟาร์ฟาน หลุดเข้าไป แต่จังหวะยิงนั้นเคียร์พุ่งมาสกัดเอาไว้ได้ก่อน
ทว่านาทีที่ 35 วิลเลียม ควิสต์ ถูกปะทะจนได้รับบาดเจ็บซี่โครงต้องถูกเปลี่ยนตัวออกโดยส่ง ลาสซี่ โชน ลงมาเล่นแทน จากนั้นเดนมาร์กพยายามเปิดเกมบุกบ้าง มาได้โอกาสยิงฟรีคิกของอีริกเซ่น ในนาทีที่ 38 แต่บอลไปติดกำแพง
จนกระทั่งนาทีที่ 43 มีการใช้วิดีโอช่วยตัดสิน จากจังหวะที่กูเอว่าโดนสะกิดในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นจุดโทษให้กับเปรู และกูเอว่าสังหารเองยิงข้ามคานไป ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก จนนาทีที่ 56 เปรูน่าจะได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่กูเอว่า พยายามพาบอลหลุดมาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดให้การ์รินโญ่ แต่เสียหลักลื่นเสียก่อน ทำให้ยิงพลาดไป
ถัดมาเพียง 3 นาทีเท่านั้น กลายเป็นเดนมาร์กที่ได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่อีริกเซ่น จ่ายให้กับโพลเซ่น หลุดไปยิงสวนตัวกัลเลส เป็นประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 60 เปรูเกือบตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ฟลอเรส ได้หลุดเข้าไปยิง แต่ว่าชไมเคิ่ลยังโชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกไปได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนตัว เปาโล เกร์เรโร่ ลงสนามมาแทนฟลอเรสทันที แล้วก็มีโอกาสได้โหม่ง แต่ยังตรงตัวชไมเคิ่ลอยู่
จากนั้นเปรูพยายามบุกอย่างหนักเพื่อหวังทำประตูตีเสมอ แต่จังหวะสุดท้ายนั้นเฉียดไปเฉียดมา โดยเฉพาะนาทีที่ 79 เกร์เรโร่ ได้โอกาสลองตอกส้นในเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 84 ฟลอเรส หลุดไปสุดเส้นด้านซ้ายก่อนเปิดกลับเข้ามาให้ฟาร์ฟานได้ยิงแต่อัดมาตรงกลางประตูทำให้ติดเซฟของชไมเคิ่ลอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกมเดนมาร์กชนะเปรู 1-0 ทำให้ตารางคะแนนกลุ่มนี้ ฝรั่งเศสนำเป็นจ่าฝูง มี 3 คะแนนเท่ากับเดนมาร์ก แต่ประตูได้เหนือกว่า