เรียงคนมาเป็นข่าว : โดยพลุน้ำแข็ง : ภาพข่าวสังคมหน้า4ประจำวันพุธที่14กุมภาพันธ์2561

⦁…เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว “อีสานโพล” สำรวจกระแสนิยมของประชาชนในพื้นที่ถิ่นที่ราบสูง ยกมาเป็นหนังตัวอย่าง 2 คำถาม 1.“ช่วงใดเหมาะต่อการเลือกตั้งที่สุด” ร้อยละ 52.4 เห็นว่า ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2561

⦁…คนอีสาน อีกร้อยละ 26.0 เห็นว่าช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2561 เหมาะสม และเพียงร้อยละ 15.6 เห็นว่าช่วงมกราคม-เมษายน 2562 เป็นช่วง “เหมาะที่สุด”

⦁…หัวข้อที่ 2 “แนวโน้มจะเลือกผู้สมัคร ส.ส.แบบใด” ร้อยละ 42.7 เลือกนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูง ร้อยละ 26.3 เลือกนักธุรกิจที่มีประสบการณ์สูง และร้อยละ 17.1 เลือก “นักการเมืองรุ่นใหม่”

⦁…นำ 2 คำถามของ “ผลโพล” มาจาระไน ขยายความ สรุปได้ว่า “คนอีสาน” อยากจะเลือกตั้ง ในคาบช่วง พ.ศ.2561 สูงลิบลิ่ว “ยิ่งชัดเลย” เมื่อนำคำตอบช่วงที่ 1 บวกกับช่วงที่ 2 มามัดเข่งรวมกัน สูงถึง 78 เปอร์เซ็นต์เลย อยากให้สะเด็ดน้ำในปี 2561

⦁…ขณะที่ “ข้อที่ 2” ก็ใกล้เคียงกัน คำจำกัดความของคำว่า “ประสบการณ์สูง” จะแปลเป็นอื่นไปได้ไง ถ้าไม่ใช่ “นักการเมืองเก่า-นักธุรกิจเก่า” ที่เคยเป็น “ผู้แทน” มาก่อนแล้วทั้งนั้น จะได้รับการต้อนรับกลับเข้ามาอย่างล้นหลาม ส่วน “คนรุ่นใหม่” เหยียบเท่าไหร่ไม่เห็นฝุ่น

⦁…ตรงกับ ที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวคลุกวงในว่า หน่วยข่าว “ภาครัฐ” แอบสุ่มตัวอย่างสำรวจ ทำโพล วัดเรตติ้งกระแสนิยม ทั่วประเทศ ปรากฏว่า ผลออกมาร้องจ๊าก มีเครื่องหมายกาคำตอบร้อยละ 70-80 “เลือก ส.ส.เก่า” มากกว่า “ผู้สมัครหน้าใหม่” พากันเป็นงง จึงเก็บเงียบ

⦁…“มึนเค” เพราะไหนว่า ประเทศไทยกำลังก้าวไกล เข้าสู่สังคมสมาร์ทโฟน แต่เอาเข้าจริงกลับย้อนยุค เลือก “คนเก่า” กันอยู่อีก ปากก็ว่าไปอีก ใจกลับไปอีกอย่างซะงั้น

⦁…ถอดรหัส ผลโพลมาจับ “ภาพรวม” โดยสรุปก็คือ เลือกตั้งไม่ว่า จะระเบิดเถิดเทิงขึ้นเมื่อใด ปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 “เพื่อไทย” ไม่ว่าจะเล่นแร่แปรธาตุอีท่าไหน ในฐานะ “แชมป์เก่า” จะต้องเข้าวิน ชนะอีกครั้ง ตามฐาน “ส.ส.เก่า” ชนะเข้ามามาก

⦁…ด้วยประการดังกล่าว เมื่อดัชนีชี้วัด หุ้นกำลังขึ้นอีกครึ่งหนึ่งแล้ว จึงเกิด “ที่มา” กรณีที่ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” 2 อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย หลังหายหน้าหายตาไปนาน มาปรากฏตัวพร้อมกันครั้งแรกขณะเดินช้อปปิ้ง ทิงนองนอย อยู่ใจกลางเมือง “กรุงปักกิ่ง” ภาพ-ข่าว เฟซกันสะพัดทุกโลกโซเชียล

⦁…หุ้นเพื่อไทยกำลังเทกตัว แกนนำขาเล็ก-ขาใหญ่ จึงขนคณะแห่นาค ดอดไปเยี่ยมคารวะ “ลูกช้าง” ขอฝากเนื้อ ฝากตัว กับ “นายใหญ่-นายหญิง” กันเต็มเมืองจีน ทัวร์กันเนืองแน่น หลายคณะ ราวกับคนไข้ “ไปหาหมอ” แจกยา

⦁…ไปพบ “นาย” ทั้งที ไม่ว่าใครก็ต้องได้ของขวัญ ได้กินข้าวด้วยกัน ถ่ายรูปร่วมกัน ที่โชคดีหน่อยได้ “อั่งเปา” ติดปลายนวม …แต่อย่างน้อยๆ ต้องได้ “คำอวยพร” แล้วแต่บุคคล

⦁…เลยเกิดเรื่องดราม่า ตามมาโดยพลัน เมื่อกลับมาแล้ว หลายคน นำคำสนทนาที่ไม่ได้บอกอะไรตรงๆ มาตีความ เหมารวม จึงเกิดข่าว “แสบไม่เบา” ว่าด้วยเรื่อง “หัวหน้าพรรค” “ชิงสุกก่อนห่าม” กันล่วงหน้า ตั้งกันง่ายดีจัง “น่าเอ็นดูเชียว”

พลุน้ำแข็ง

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่