เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)

บริษัทในเครือ

ติดตาม

หน้าแรก บล็อก

ไทยเจ้าภาพประชุมใหญ่ดับเบิลยูบีซี พร้อมชิงแชมป์โลกกว่า 10 เส้น

ไทยเจ้าภาพประชุมใหญ่ดับเบิลยูบีซี พร้อมชิงแชมป์โลกกว่า 10 เส้น

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่สำนักงานสภามวยแห่งเอเชีย พล.ต.ธนพล ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลก มวยไทย และ ประธานสภามวยแห่งเอเชีย (ดับเบิลยูบีบซี เอเชีย) พร้อมด้วย นายทศพล วรรณศุภผล ผอ.กองส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายภูริพันธ์ บุนนาค รอง ผอ.อาวุโสสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ นายปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ กรรมการผู้จัดการเพชรยินดีบ๊อกซิ่งโปรโมชั่น และ นายเควิน นูน เลขาธิการสภามวยโลก มวยไทย และสภามวยแห่งเอเชียร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “มวยไทยสู่มวยโลก” หรือ “WBC Convention ครั้งที่ 63” และ “WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1” และการแข่งขันมวยชิงแชมป์โลกในงานประชุม ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ซอยสุขุมวิท 22 รวมถึงบริเวณอุทยานเบญจสิริ คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานจากทั่วโลกมากกว่า 2,000 คน โดยจะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารความเคลื่อนไหวการประชุมไปยังประเทศสมาชิกกว่า 176 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ของงานคือ การรวมสุดยอดนักมวยจากประเทศสมาชิกแข่งขันชกชิงเข็มขัดแชมป์สภามวยโลก(ดับเบิลยูบีซี), ดับเบิลยูบีซี เอเชีย และดับเบิลยูบีซี มวยไทย กว่า 10 เส้น

พล.ต.ธนพล เผยว่า ความพิเศษของงานในครั้งนี้ จะเป็นการประชุมกีฬามวยนานาชาติครั้งแรกในโลกที่มีทั้งมวยไทยและมวยสากลรวมอยู่ในงานเดียวกัน ซึ่งจะอัดแน่นไปด้วยสาระความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนากีฬามวย เช่น การเสริมสร้างความปลอดภัยแก่นักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรกีฬามวย นอกจากนี้ เรายังได้จัดเตรียมใช้เสน่ห์แห่งความเป็นไทยผสานกับศิลปะการต่อสู้ เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและทรงคุณค่า เช่น การไหว้ครูมวยไทย การแสดงมวยโบราณ และนำเสนออาหารไทยเลิศรส รวมถึงการแสดงวัฒนธรรมไทยด้านต่างๆ ส่วนในงานกาล่าดินเนอร์ จะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคลระดับตำนานในวงการกีฬามวย นอกจากนี้ยังจะมีการเปิดมาสเตอร์คลาสมวยไทยโดยอดีตแชมป์โลกชื่อดังให้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทุกเช้า และการแข่งขันชกมวยไทยทั้งสมัครเล่นและอาชีพทุกวันภายในบริเวณสวนเบญจสิริตลอดห้วงเวลาจัดงาน และอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานนี้คือการรวมตัวของบุคคลสำคัญวงการมวยชาวไทยและซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

รับจ้างลอยกระทง รายได้งาม ‘แล้วแต่จะให้’ พีคสุดใบละ 100 เลิกลอยคอเก็บเหรียญ เหตุ กทม. ลุยเคลียร์ไว

รับจ้างลอยกระทง รายได้งาม ‘แล้วแต่จะให้’ พีคสุดใบละ 100 เลิกลอยคอเก็บเหรียญ เหตุ กทม. ลุยเคลียร์ไว 

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลลอยกระทงเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณ ‘ท่าเรือวัดโพธิ์’ ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ ว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ท่ามกลางเสียงดนตรีไทยบรรเลงสด โดยนักท่องเที่ยวบางส่วนแต่งกายด้วยชุดไทยอย่างสวยงามถ่ายภาพคู่กระทง

ขณะที่บรรยากาศบริเวณ ‘ท่าเรือสะพานพุทธ’ เกือบทั้งหมดคือกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางมาลอยกระทงตามประเพณี โดยในจุดนี้มีผู้รับจ้างนำกระทงหย่อนจากอาคารท่าเรือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนมาก โดยใช้โครงพัดลม ผู้ด้วยโลหะหรือไม้ขนาดยาว

สำหรับค่าบริการ เป็นไปตามความพอใจของผู้ใช้บริการ

‘บิว’ และเพื่อน รับจ้างหย่อนกระทง จากอาคารท่าเรือสะพานพุทธ ค่าจ้างแล้วแต่จะให้

‘บิว’ ชายอายุ 26 ปี หนึ่งในผู้รับจ้าง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่บริเวณใต้สะพานพุทธ ปกติมีอาชีพรับจ้างเชิดสิงโต เมื่อมาถึงเทศกาลลอยกระทงจึงมารับจ้างลอย ค่าจ้างแล้วแต่ผู้จ้างจะให้ ในอดีตที่มรการลงน้ำเก็บเหรียญในกระทงนั้น ปัจจุบันมีน้อยลงมาก เพราะกทม. เข้มงวดความปลอดภัย เมื่อคนลอยกระทงแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่และเรือเล็กทยอยเก็บทันที ตนจึงผันตัวมาหารายได้เช่นนี้แทน โดยส่วนใหญ่มักได้ครั้งละ 20 บาท มากที่สุดคนครั้งละ 100 บาท

ตร.บุกรีสอร์ตชายแดนจันทบุรี จับแก๊งชาวจีน42คน ยึดมือถือ215เครื่อง-พร้อมอุปกรณ์ทำงานเพียบ

ตำรวจเปิดปฏิบัติการฟ้าผ่า บุกทลายรังในรีสอร์ทชายแดนโป่งน้ำร้อน จันทบุรี จับกุมกลุ่มชาวจีนรวม 42 คนยึดมือถือ 215 เครื่องพร้อมอุปกรณ์ทำงานเพียบ ชี้เป้าโยงขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ เครือข่ายหลอกลวงหรือค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.จันทบุรี (ตม.จว.จันทบุรี) ได้รับแจ้งข้อมูลสำคัญจากสายลับของ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี (กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี) ว่ามีกลุ่มบุคคลสัญชาติจีนเข้าพักที่ รีสอร์ตแหล่งหนึ่ง ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ในลักษณะที่น่าสงสัยและอาจเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายสงสัยเตรียมข้ามแดนสู่ฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งกัมพูชา

หลังได้รับแจ้ง ตม.จว.จันทบุรี จึงได้ดำเนินการ บูรณาการกำลัง อย่างเร่งด่วนร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี, สภ.โป่งน้ำร้อน, ตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) เพื่อ วางแผนปิดล้อมและเข้าตรวจค้น เป้าหมาย

เมื่อชุดปฏิบัติการเข้าถึงรีสอร์ทและเข้าตรวจค้นห้องพักจำนวน 11 ห้อง ผลการตรวจค้น พบชาวต่างด้าวสัญชาติจีนรวม 42 คน ซึ่งทั้งหมดเพิ่งเดินทางมาจากภาคเหนือและเข้าพักในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์หลักคือการเดินทางข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา และจากการตรวจค้นภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอุปกรณ์จำนวนมากที่ถูกใช้ในการกระทำผิด ซึ่งบ่งชี้ว่าบุคคลเหล่านี้อาจเตรียมการเป็นแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ

จากการตรวจค้นสามารถยึดของกลางจำนวนมาก ชี้ชัดอุปกรณ์ทำงานสแกมเมอร์โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจยึดสัมภาระจำนวนมาก ที่บ่งชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ215 เครื่อง ,โน้ตบุ๊ก 11 เครื่อง , เงินสด 807,000 บาท , ซิมการ์ดพม่า (mysim) 10 หมายเลข , แฟลชไดรฟ์และสมุดจดบันทึก

จากการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง พบว่า ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่มีหนังสือเดินทาง 35 คน และอีก 3 คน มีหนังสือเดินทางแต่ไม่มีตราขาเข้า เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการจับกุมชาวจีนรวม 38 รายในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง และข้อหาอื่น ๆ ก่อนทำบันทึกจับกุมและบันทึกตรวจยึด ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตม.จว.จันทบุรี ระบุว่า จะเร่งสืบสวนขยายผล เพื่อสาวไปถึงเครือข่ายผู้บงการและตรวจสอบความเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ หรือขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติที่ใช้ไทยเป็นทางผ่าน

 

ชาวกรุง เซ็งแก๊งคอล ขอ ‘ลอยทิ้ง’ จี้รบ. เร่งจัดการให้ไว หวังหมดโศก ลุ้นชัชชาติลงอีกสมัย

ชาวกรุง เซ็งแก๊งคอล ขอ ‘ลอยทิ้ง’ จี้รบ. เร่งจัดการให้ไว หวังหมดโศก ลุ้นชัชชาติลงอีกสมัย

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่วัดเสมียนนารี พระอารามหลวง เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้จัดงานลอยกระทง ภายใต้ธีม “แสง สายน้ำ มนต์เสน่ห์ลอยกระทง คลองเปรมประชากร” ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่จัดงานหลักของกรุงเทพมหานครในปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณคลองเปรมประชากรเต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงานอย่างคึกคัก สองฝั่งคลองมีเรือขายอาหารและของที่ระลึกเรียงราย สร้างสีสันและเติมชีวิตชีวาให้ค่ำคืนแห่งแสง สี และเสียงของงานลอยกระทงในปีนี้

น.ส.กนกกาญจน์ อายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานลอยกระทงในครั้งนี้ กล่าวว่า ตนทำงานอยู่แถวตลาดบองมาเช่เดินทางมาร่วมงานลอยกระทงพร้อมกับแฟนหนุ่ม

“ไม่ได้อธิษฐานอะไรเป็นพิเศษแค่ขอให้สุขภาพร่างกายของคนในครอบครัวแข็งแรง ขอให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น ส่วนอะไรที่มันไม่ดีต่อประเทศเราก็อยากให้โยนทิ้งไป” น.ส.กนกกาญจน์ กล่าว

เมื่อถามถึงการทำงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. น.ส.กนกกาญจน์ ตอบว่า ตนเป็นคนต่างจังหวัด แต่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ อยากให้นายชัชชาติลงสมัครผู้ว่าฯ อีกสมัย

“สมัยหน้าอยากให้ผู้ว่าชัชชาติลงอีกสมัย เราเป็นคนต่างจังหวัด แต่รู้สึกว่าผู้ว่าชัชชาติก็ทำงานดี อยากจะเจอท่านสักครั้งเหมือนกัน” น.ส.กนกกาญจน์ กล่าว

น.ส.กนกกาญจน์ (สงวนนามสกุล) เชียร์ ชัชชาติ ลงสนามชิงผู้ว่าฯ อีกสมัย

ด้านนายจักรพันธ์ สว่างพงค์พันธ์ อายุ 32 อาชีพรับจ้างทั่วไป หนึ่งในผู้ร่วมงาน กล่าวว่า ตนได้มาร่วมงานลอยกระทงกับแฟนสาว โดยตั้งใจจะมาลอยกระทงเพื่อขอขมาพระแม่คงคาและร่วมอนุรักษ์ประเพณีไทยที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

“ปีนี้ได้อธิษฐานว่า อยากขอให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรง และอยากให้สแกมเมอร์หายไปจากประเทศไทยได้ยิ่งดี เพราะทุกวันนี้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น สร้างปัญหาให้กับผู้คนอย่างมาก” นายจักรพันธ์ กล่าว

นายจักรพันธ์ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีมิจฉาชีพโกงให้โอนเงินเยอะมาก ทั้งทางโทรศัพท์และออนไลน์ หลายคนตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว

”อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น” นายจักรพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย

นายจักรพันธ์ สว่างพงค์พันธ์ ขอพรให้แก๊งคอลฯ หายจากประเทศ หวังรัฐบาลจัดการจริงจัง

นางจันทณา นาถมทอง วัย 47 ปี คุณครูจากโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ กล่าวว่า ปกติมาร่วมงานเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ลูกศิษย์ยังได้ทำกระทงจากสลากกินแบ่งรัฐบาลมาให้ตนด้วย

“มาที่นี่ทุกปี ปีที่แล้วก็มาลอยที่นี่ ขอพรทั่วๆไปหมดทุกข์หมดโศก ลูกศิษย์ทำกระทงเกี่ยวกับรีไซเคิลอย่างนี้อยู่แล้วทุกปี เขาก็เลยนำมาให้”

นางจันทณา กล่าวต่อว่า ปีนี้ตนเพิ่งสูญเสียคุณพ่อจึงอยากจะลอยความทุกข์ออกในตรงนี้ออกไปเพื่อจะได้พบเจอแต่ความสุข

“ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุด เรามีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด” นางจันทณา กล่าวทิ้งท้าย

นางจันทณา นาถมทอง ครูโรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ ขอหมดทุกข์หมดโศก

นายแชมป์ สงวนนามสกุล กล่าวว่า ตนพาลูกชาย คือ น้องอคิณวัย 6 ขวบ มาลอยกระทงรูปยีราฟที่ได้จากเพื่อนคุณแม่มาลอย

“น้องเรียนอยู่โรงเรียนแสงโสม และคุณแม่ทำงานอยู่สำนักงานเขตดอนเมืองอยู่ใกล้ๆ ก็เลยพาน้องมาลอย ปีนี้ขอเพียงแค่สุขภาพร่างกายแข็งแรง และการงานรุ่งเรือง” นายแชมป์ กล่าว

ด้าน น้องอคิณลูกชายวัย 6 ขวบเสริมว่าปีหน้าอยากจะมาอีกครั้งและขอกระทงเป็นรูปไดโนเสาร์

พ่อแชมป์ และน้องอคิณ

EEC เปิดผังเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ดึงเอกชนลงทุน 7.4 หมื่นล้านปี’69

EEC เปิดผังเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ดึงเอกชนลงทุน 7.4 หมื่นล้านปี’69

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซีและเมืองใหม่อัจฉริยะ(EECiti) ตั้งอยู่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ขณะนี้มีความคืบหน้าตามแผนในระยะที่1 พัฒนาพื้นที่ 5,795 ไร่ หรือประมาณ 40% ของพื้นที่โครงการทั้งสิ้น 14,619 ไร่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจและสำนักงานภูมิภาค สถานที่ราชการ ศูนย์การแพทย์ ที่อยู่อาศัย โดยได้ออกแบบแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน แบบเชิงแนวคิด การกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)ของโครงการแล้ว อยู่ขั้นตอนออกแบบรายละเอียดและศึกษาความเป็นไปได้ทางการเงินและการลงทุน

โดยคาดว่าในปี 2569 จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค มูลค่า 74,465 ล้านบาท เริ่มการก่อสร้างในปี 2570 ประกอบด้วย 10 ระบบ ได้แก่ ระบบไฟฟ้าและพลังงาน ระบบน้ำประปา ระบบการจัดเก็บน้ำเสียและผลิตน้ำรีไซเคิล ระบบบริหารจัดการน้ำ ระบบจัดการขยะ ระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโทรคมนาคม ระบบดับเพลิง ระบบเตือนภัยพิบัติและระบบป้องกันฟ้าผ่า ระบบเครือข่ายถนนและระบบจราจรที่รองรับระบบขนส่งสาธารณะ ระบบรางสาธารณูปโภครวม และพื้นที่สีเขียวและภูมิทัศน์ส่วนกลาง

ส่วนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและแบบเชิงแนวคิดโครงการ ออกแบบด้วยแนวคิดเมืองอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ ย่านศูนย์สำนักงานใหญ่ภูมิภาค ศูนย์ราชการสำคัญและศูนย์บริการทางการเงินแห่งอนาคต (ซีบีดี) ย่านศูนย์การแพทย์แม่นยำและการแพทย์เพื่ออนาคต ย่านศูนย์การศึกษาวิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติ ย่านศูนย์ธุรกิจบีซีจี ย่านศูนย์ธุรกิจบริการ เช่น การท่องเที่ยวและบริการ กีฬา สันทนาการ โลจิสติกส์ ย่านที่อยู่อาศัยหลักสำหรับคนทุกกลุ่มรายได้ และมิกซ์ยูส ภายใต้แนวคิดวางแผนเชิงพื้นที่เพื่อการเติบโตยั่งยืน มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งรวมมากกว่า 30% ทั้งสร้างพื้นที่นวัตกรรมบริการอัจฉริยะ เช่น พื้นที่สาธารณะส่วนกลาง เข้าถึงง่ายด้วยระบบขนส่งอัจฉริยะ ลดการใช้พลังงานและออกแบบที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเทียบเท่ามาตรฐานสากล เพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์

กทม. เผยภาพรวมกระทง 68 ‘น้อยกว่าปีก่อนๆ’ จัดเรือ 34 ลำ รถบรรทุก 8 คัน ลุยเคลียร์ถึงตี 5

กทม. ลุยจัดเก็บกระทงในเทศกาลลอยกระทง 2568 นำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ลดการฝังกลบ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่บริเวณปากคลองโอ่งอ่าง ฝั่งพระนคร (ใต้สะพานพระปกเกล้า) พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร และนางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา

นายพรพรหม กล่าวว่า ภาพรวมจำนวนกระทงในปีนี้ถือว่าน้อยกว่าปีก่อน ๆ โดยปีที่แล้ว จัดเก็บกระทงได้ 514,590 ใบ ซึ่งกว่า 98% เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ และเป็นโฟมไม่ถึง 2% ปีนี้คาดว่าจะจำนวนกระทงจะลดลง และอัตราส่วนระหว่างวัสดุธรรมชาติกับโฟมไม่ต่างจากปีที่แล้ว สำหรับข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ปีนี้การย่อยกระทงที่เก็บมา เสียงตะปูจะน้อยมาก ต่างกับปีก่อน ต้องขอบคุณผู้ประกอบการที่ทำกระทงจำหน่ายโดยที่คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ กทม. ที่จัดเก็บ

นายพรพรหม กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการลอยกระทงลงน้ำตามปกติแล้ว ขอเชิญชวนประชาชนลอยกระทงออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ ผ่านเว็บไซต์ greener.bangkok.go.th ซึ่ง ณ เวลา 20.30 น. ยอดลอยกระทงออนไลน์แล้วเกือบ 20,000 กระทง ถือเป็นการร่วมสืบสานประเพณีแบบรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน แต่หากลอยกระทงจริง ขอความร่วมมือประชาชนไม่ใช้กระทงที่ทำจากขนมปัง ซึ่งทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และไม่ใช้กระทงโฟม ที่แม้มองว่าเก็บง่ายแต่วัสดุไมโครพลาสติกก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน

ด้าน พญ. เลิศลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ทุกสำนักงานเขตได้มีการเตรียมการเพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกันริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานพระปกเกล้า มีอีกหนึ่งทีมสำคัญ คือเจ้าหน้าที่จากสำนักสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติงานในการจัดเก็บกระทงที่อยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 163 คน โดยเก็บกระทงตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานพระราม 9 ระยะทางรวม 15 กิโลเมตร นอกจากมีเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บแล้ว เรามีเรือเก็บกระทงจำนวน 28 ลำ และรถในการขนย้ายกระทงอีกจำนวน 8 คัน

“กระทงใบตอง เราสามารถนำไปย่อยเป็นปุ๋ยได้ ส่วนกระทงโฟมซึ่งไม่ใช่วัสดุธรรมชาติจะนำไปฝังกลบ ในส่วนกระทงขนมปังที่แม้จะมีสีสันสวยงาม แต่เมื่อลงไปอยู่ในน้ำแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม” พญ. เลิศลักษณ์ กล่าว

กระทง

นายเอกวรัญญู กล่าวปิดท้ายว่า กรุงเทพมหานครจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งเรื่องการดูแลความปลอดภัยของประชาชน และการจัดเก็บกระทง โดยในวันพรุ่งนี้ช่วงเช้าเราจะมีการรายงาน จำนวนตัวเลขกระทงให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ งานเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2568 ในพื้นที่กรุงเทพฯ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน มีการจัดงานเพื่อสืบสานประเพณีในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ งานเทศกาลลอยกระทงกรุงเทพฯ ประจำปี 2568 ณ บริเวณสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี เขตบางพลัด แสง สายน้ำ มนต์เสน่ห์ลอยกระทง คลองเปรมประชากร ณ วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้เปิดพื้นที่สวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร จำนวน 33 แห่ง ในพื้นที่เขต 21 เขต ให้ลอยกระทงตั้งแต่สวนเปิดจนถึงเวลา 24.00 น. โดยรณรงค์ขอความร่วมมือใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ งดการนำกระทงที่ทำจากขนมปังและโฟมเข้ามาลอยในสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร

เนื่องจากเกิดผลกระทบกับระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของบึงน้ำซึ่งเป็นระบบปิด เพราะกระทงขนมปังเป็นปัญหาต่อการจัดเก็บมากที่สุด เปื่อยยุ่ยง่าย บางชนิดใช้สีที่เป็นอันตรายต่อปลา และเมื่อขนมปังจมลงสู่ก้นสระ จะทำให้ระดับออกซิเจนต่ำลง เป็นอันตรายกับสัตว์น้ำทุกชนิด และสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะจากกระทง กรุงเทพมหานครชวนลอยกระทงแบบรักษ์โลก มาด้วยกัน ลอยด้วยกัน 1 กลุ่ม 1 ครอบครัว 1 กระทง หากใครไม่สะดวกออกไปร่วมลอยกระทงในจุดต่าง ๆ ยังสามารถลอยกระทงออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ greener.bangkok.go.th โดยสามารถเลือกสวนสาธารณะที่ต้องการ พร้อมเลือกกระทงตามสไตล์ที่ชอบ ลอยกระทงได้จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันนี้ (5 พ.ย. 68)

กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการจัดเก็บกระทงตามแผนการปฏิบัติงานจัดเก็บกระทง เพื่อไม่ให้ขยะตกค้างในแหล่งน้ำ แบ่งพื้นที่การจัดเก็บกระทง ดังนี้

  • สำนักงานเขตจัดเก็บกระทงในสถานที่จัดงานลอยกระทง และคู คลองที่อยู่ในพื้นที่เขต
  • สำนักการระบายน้ำจัดเก็บกระทงในคูคลอง และบึงรับน้ำ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ

สำนักสิ่งแวดล้อมจัดเก็บกระทงในสวนสาธารณะ และแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานพระราม 9 ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร และได้จัดเจ้าหน้าที่ วัสดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะในการจัดเก็บกระทง โดยจัดเจ้าหน้าที่จัดเก็บกระทง จำนวน 163 คน เรือเก็บขยะ จำนวน 28 ลำ ติดตั้งไฟส่องสว่างทุกลำ เรือขนถ่ายและลำเลียงวัชพืช จำนวน 2 ลำ เรือเก็บขนและลำเลียงวัชพืช จำนวน 1 ลำ เรือกวาดเก็บวัชพืช จำนวน 1 ลำ และเรือตรวจการณ์ จำนวน 2 ลำ รวมเรือที่ใช้การจัดเก็บกระทง จำนวน 34 ลำ รถบรรทุกที่ใช้ในการขนถ่ายกระทง 8 คัน โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568

สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้ในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลำเลียงขึ้นที่ปากคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร และท่าคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เขตราษฎร์บูรณะ โดยจะแยกเป็นกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ นำไปบดย่อย และนำส่งโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์หนองแขม ส่วนกระทงที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น โฟม จะนำไปฝังกลบ

ในส่วนของกระทงที่จัดเก็บได้ในพื้นที่อื่น ๆ เจ้าหน้าที่จะจัดเก็บไปส่งที่สถานีขนถ่ายมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร ทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม และศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เพื่อนำไปทำลายอย่างถูกวิธี สำหรับกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้จะนำเข้าสู่โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์หนองแขม ซึ่งเป็นการนำขยะกระทงกลับมาใช้ประโยชน์ และลดภาระค่าใช้จ่ายในการนำไปฝังกลบ ส่วนกระทงโฟมจะนำไปเข้าสู่กระบวนการฝังกลบต่อไป

ไทยเผชิญวิกฤตบ้านว่าง 1.64 ล้านหลัง พิษเก็งกำไร ศก.ซบ ผ่อนไม่ไหว แนะรัฐซื้อปล่อยเช่าผู้มีรายได้น้อย

ไทยเผชิญวิกฤตบ้านว่าง 1.64 ล้านหลัง พิษเก็งกำไร ศก.ซบ ผ่อนไม่ไหว แนะรัฐซื้อปล่อยเช่าผู้มีรายได้น้อย

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด(AREA) เปิดเผยว่า ผลสำรวจบ้านว่างเป็นบ้านแนวราบและห้องชุดสำหรับการซื้อขายที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ไม่มีผู้เข้าอยู่อาศัย หรือมีผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 15 หน่วยต่อเดือน ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว และห้องชุดที่เป็นที่อยู่อาศัยที่มีไว้เพื่อการซื้อขาย ไม่รวมอะพาร์ตเมนต์ หอพักหรือที่อยู่อาศัยเพื่อการให้เช่าในปี 2568 ทั่วประเทศ มีจำนวน 1,644,419 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 3,453,280 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 734,893 หน่วย โดยเกือบทั้งหมดอยู่ในการครอบครองของผู้ที่ซื้อไปแล้ว

ซึ่งบ้านว่างเป็นเครื่องชี้ถึงภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่ชัดเจนที่สุด ถ้ามีบ้านว่างเหลืออยู่มากสะท้อนปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัยคงมีไม่มากนัก แต่แสดงให้เห็นถึงปัญหาการเก็งกำไรจนเกินควร และยังสะท้อนตลาดที่อยู่อาศัยมีปัญหาจนทำให้บ้านที่จะสร้างขึ้นใหม่ขายได้ยาก หากผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินมีปัญหาในการขาย อาจส่งผลกระทบถึงความมั่นคงของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อและมีความสำคัญต่อการวางแผนทั้งภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการวางนโยบายและแผนต่อการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย

“การโหมสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ตลอดเวลา ยิ่งเพิ่มบ้านว่างมากขึ้น ราชการควรหาทางช่วยระบายที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะมือสอง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยหนึ่งแนวทางการแก้ปัญหาคือ เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบ้านว่าง กระตุ้นให้มีการใช้สอย โดยเจ้าของอาจจะขายหรือให้เช่าในราคาถูกลงกว่าเดิม ช่วยให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”นายโสภณกล่าว

นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) ควรจัดหมวดที่อยู่อาศัย แล้วรวบรวมข้อมูล บ้านว่าง บ้านรอขาย และบ้านที่อยู่ในมือสถาบันการเงิน ไว้ในระบบเดียวกัน เพื่อจะช่วยให้ภาครัฐและเอกชนสามารถวางแผนได้ตรงจุดมากขึ้น รวมถึงควรใช้กลไกทางภาษีและแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของบ้านว่างนำบ้านกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ปล่อยเช่าหรือขายในราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่ปรับปรุงบ้านเก่าเพื่อนำกลับเข้าสู่ตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งบ้านว่างจำนวนมาก สามารถปรับมาใช้เป็นที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนกลุ่มรายได้ปานกลางถึงน้อยได้ โดยอาจจะตั้งโครงการบ้านว่างเพื่อสังคม เพื่อเปลี่ยนบ้านว่างให้เป็นบ้านเช่าราคาย่อมเยาหรือใช้ในโครงการสวัสดิการที่อยู่อาศัยข้าราชการ

“ภาครัฐน่าจะมีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถโอนหรือบริหารบ้านร้าง บ้านธนาคาร หรือทรัพย์สินรอการขายได้อย่างคล่องตัวขึ้น และตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อผลักดันการใช้ประโยชน์จากบ้านว่างอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการแก้ปัญหาบ้านว่างเป็นทั้งการหมุนเวียนใช้ประโยชน์ทรัพย์สิน และการเพิ่มโอกาสช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย”นายสุนทรกล่าว

นายวสันต์ คงจันทร์ นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า การที่ประเทศไทยมีบ้านว่างกว่า 1.6 ล้านหลังทั่วประเทศ เกิดจากผ่อนไม่ไหว บ้านถูกยึด ไม่มีคนอยู่อาศัย นักลงทุนซื้อคอนโดหลายห้องแล้วปล่อยเช่าไม่ได้ และมีอสังหาฯบางประเภทที่หมดประโยชน์ใช้สอย เช่น ตึกแถวที่ถูกดิสรัปต์และขายไม่ออกแม้ลดราคา 50% ซึ่งสถานการณ์บ้านว่างของไทยจะคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองผู้สูงอายุ เมืองที่เศรษฐกิจไม่ค่อยโตมาก ทำให้มีบ้านว่างมากขึ้นเรื่อยๆ

“วิธีแก้ไขปัญหาทางรัฐบาลต้องมีแพลตฟอร์มกลาง สำหรับการซื้อ การขาย และการเช่า ในราคาไม่แพง เพื่อให้คนอยากจะมีที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านมือสองและบ้านใหม่ พร้อมเปิดให้คนไทยและต่างชาติที่สนใจเช่าระยะยาวได้มากกว่า 30 ปี เช่น 50-60 ปี เพื่อให้แข่งขันกับประเทศรอบบ้านได้ และยังแก้ปัญหานอมินีต่างชาติได้ นอกจากนี้รัฐบาลสามารถไปซื้อที่อยู่อาศัยจากเอกชนในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อทำที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย แทนที่จะสร้างใหม่”นายวสันต์กล่าว

ตำรวจท่องเที่ยว ระดมกำลังทั่วประเทศ ดูแลความปลอดภัยเทศกาลลอยกระทง

ตำรวจท่องเที่ยว ระดมกำลังทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(บช.ทท.) บูรณาการกำลังปฏิบัติในทุกพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2568 ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ริมน้ำและสถานที่จัดงานจำนวนมาก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(ผบช.ทท.) กำชับให้หน่วยในสังกัดทั่วประเทศ ดำเนินมาตรการเชิงรุก ดังนี้

  • จัดกำลัง สายตรวจเดินเท้า ในพื้นที่จัดงาน วัด ริมแม่น้ำ และจุดชมกิจกรรม
  • จัด สายตรวจจักรยาน (Bicycle Patrol) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในพื้นที่มีประชาชนหนาแน่น เช่น สวนสาธารณะ ริมแม่น้ำ และลานกิจกรรม
  • ปรับกำลัง รถโมบาย (Mobile Unit / ปชช.สัมพันธ์ + ช่วยเหลือเร่งด่วน) ประจำจุดบริการประชาชน
  • เพิ่มการตรวจตราเส้นทางน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ให้บริการช่วยเหลือและข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวผ่าน สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ประชาสัมพันธ์การใช้งาน Thailand Tourist Police Application รองรับ 8 ภาษา เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อ

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผบ.ตร. และ ผบช.ทท. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน บริเวณ วัดเสมียนนารี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดจัดงานสำคัญ โดยเน้นย้ำการให้บริการประชาชน การบริหารจราจร และการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ริมน้ำอย่างเข้มงวด

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยว งดสูบบุหรี่ในพื้นที่แออัด งดดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ งดเล่นพลุ และไม่จุดไฟในน้ำ เพื่อรักษามาตรการความปลอดภัยและร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีไทยให้งดงาม

หากต้องการความช่วยเหลือโทร สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่าน Thailand Tourist Police Application

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รอง นรม. ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อชมการสาธิตรถโมบาย เคลื่อนที่ของ บช.ทท. เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติ

ราศีใด ได้ปล่อยวางภาระงานที่แบกไว้เต็มบ่า มีโอกาสเล่นหุ้น-ถูกหวย ได้เงินทองมาแบบฟลุคๆ

ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ดาวกับดวงวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568

ท่านผู้อ่านโปรดทราบ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย ยึดถือว่าแรงดึงดูดระหว่างดาวพระเคราะห์มีอิทธิพลต่อชีวิต จิตใจ และการกระทำของมนุษย์แต่ละคน ดาวพระเคราะห์โคจรเคลื่อนที่ไปแต่ละวัน จะมีอิทธิพลต่อลัคนา (ลั) ผ่านเรือนชะตา
ลัคนา (ลั) ราศีอะไร จะหาได้จากการผูกดวง (ทำดวงชะตา) โดยใช้ข้อมูล วัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิดทำดวงชะตาขึ้น ดังนั้น ท่านจะต้องรู้ว่า ลัคนา (ลั) ในดวงชะตาของท่านอยู่ในราศีอะไรเสียก่อน จึงค่อยอ่านคำทำนายจาก ลัคนา (ลั) ราศีนั้น

ลัคนา (ลั) ราศีเมษ
วันนี้ท่านจะมีโอกาสได้ปล่อยวางภาระการงานอันหนักหน่วงที่แบกไว้เต็มบ่า จิตใจสบายคลายเครียดขึ้นเล็กน้อย มีความสุขกับครอบครัวมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตัวท่านเองจะเป็นตัวการทำให้ตนเองลำบากไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ดาวประจำราศีอับแสง ท่านควรอยู่ในความสงบ ระวังการเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย

ลัคนา (ลั) ราศีพฤษภ
วันนี้ท่านมีดาวราหูโคจรอยู่ในเรือนการงาน มีเกณฑ์จะได้งานหรือทรัพย์สิ่งของแปลกๆ โอกาสเล่นหุ้นเล่นหวยทั้งบนดินหรือใต้ดินแจ่มใส ยวดยานพาหนะอาจมีส่วนเพิ่มรายได้ การเดินทางค่อนข้างราบรื่น ไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้หรือไกลก็ตาม ทำอะไรผู้ใหญ่ในสำนักงานและครอบครัวยังให้การสนับสนุนดี

ลัคนา (ลั) ราศีเมถุน
วันนี้ท่านมักจะได้รับการสนับสนุนทางด้านการงาน อันจะช่วยให้การติดขัดทางการเงินคลายตัวลงบ้าง อีกทั้งด้านเงินทองก็ยังมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย แต่ต้องพยายามลดรายจ่ายลงบ้างจึงจะดี จะยุ่งเกี่ยวกับของเก่าของโบราณหรือของขลังควรคิดให้รอบคอบเพราะอาจได้ของไม่มีคุณภาพ ที่มีอยู่ก็อาจเสื่อมสภาพ

ลัคนา (ลั) ราศีกรกฎ
วันนี้ท่านที่อยู่เปล่าๆ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบจะต้องได้งานอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งมีรายได้ดี ผู้ที่ทำงานอยู่แล้วจะได้ทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นหรืออยู่ที่เก่าแต่มีหน้าที่สำคัญกว่าแต่ก่อน มีผู้นำลาภมาให้ถึงมือท่านแต่อาจเป็นสิ่งที่มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนนัก ควรระวังว่าจะผูกพันและมีผลต่อชีวิตของท่านในอนาคต

ลัคนา (ลั) ราศีสิงห์
วันนี้ท่านอยู่ในช่วงที่ดวงชะตาค่อนข้างอ่อนแอ ถึงแม้ระยะนี้จะอ่อนล้าไปบ้างแต่กำลังของท่านจะกลับมาในไม่ช้า หากทำดีแล้วไม่ควรพูดโอ้อวดใครเพราะผู้ใหญ่จะไม่ค่อยเชื่อน้ำยาของท่าน อาจมีผู้นินทาว่าร้ายมากกว่าสรรเสริญ มีโอกาสที่ดีในการกะเก็งกำไรเกี่ยวกับที่ดินหรือของเก่า ของขลัง พระเครื่องต่างๆ

ลัคนา (ลั) ราศีกันย์
วันนี้ท่านจะมุ่งหน้าทำงานหาเงินเป็นหลัก อาจได้เครื่องสำอางหรือของสวยงามมาครอบครอง หากอยู่บ้านจะไม่ค่อยมีความสุข มักชอบท่องเที่ยวเดินทางไปค้างอ้างแรมที่อื่นจะมีความสุขมากกว่า คนมีคู่แล้วคู่ครองจะขัดใจหรือไม่ยอมทำอะไรที่ท่านต้องการทำ คนโสดจะเอาใจคนรักจนตัวเองวุ่นวายหนัก

ลัคนา (ลั) ราศีตุล
วันนี้ท่านมีจินตนาการและทัศนวิสัยที่กว้างไกลกว่าผู้อื่น ในระยะนี้จะมีอิสระในการคิดหรือใช้ชีวิตมากขึ้น ถึงอย่างไรท่านไม่ควรรับใครแปลกหน้าเข้าบ้านโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นจะต้องมีผู้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นระยะที่ท่านควรปิดวาจาให้มากๆ แล้วจะดี ผู้ที่มีคนรักแต่เขายังไม่รักตอบคงจะดีเร็วๆ นี้

ลัคนา (ลั) ราศีพิจิก
วันนี้ท่านที่มีงานทำมั่นคงอยู่แล้วก็ยังคิดจะสร้างงานใหม่ตามรสนิยมอุดมคติ ด้วยงานที่ทำอยู่ยังไม่เต็มมือมากพอ แต่ไม่ควรขายสิ่งของที่ท่านไม่รู้ที่มาที่ไปชัดเจนหรือได้แหล่งผลิตที่ให้ราคาต่ำเกินจริง ไม่ควรเย้ยหยันเจ้าหนี้หน้าเลือดหรือนักเลงใดๆ เพราะหากเขาคิดว่าท่านเป็นศัตรู ท่านจะเดือดร้อนอย่างมาก

ลัคนา (ลั) ราศีธนู
วันนี้ท่านจะเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากอาหารฤทธิ์ร้อน ความร้อน หรือสารเคมีที่เป็นกรดต่างๆ ถ้าท่านไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า ไม่ควรให้ใครเขานวดหรือเหยียบท่านโดยนึกสนุก ถ้าเขาจับเส้นท่านผิดก็อาจถึงพิการทีเดียว ผู้ที่ตกงานหรือถังแตกระยะนี้ยังต้องอดทนอีกนิด หลังจากสิ้นปีไปแล้วท่านจะดีขึ้นมาก

ลัคนา (ลั) ราศีมังกร
วันนี้ท่านจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ตนเองและผู้อื่นได้ดี เครดิตและเงินทองก็จะได้มาแบบฟลุคๆ แต่รายได้บางส่วนที่ได้มาอาจต้องนำไปช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากบ้าง จะได้ข่าวดีเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการงาน แต่ศัตรูของท่านพยายามทำให้การงานของท่านยุ่งยาก ซึ่งท่านควรระวังเอาไว้เสมอ

ลัคนา (ลั) ราศีกุมภ์
วันนี้ท่านจะตัดสินใจอย่างฉับพลันและเด็ดเดี่ยว ไม่พอใจใครขึ้นมาก็ใช้กำลังตัดสินทันที มีมีดปืนจะใช้โดยไม่คำนึงถึงประมวลกฎหมายคดีอาญาอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ใครอยู่ใกล้ท่านก็คงจะแย่ไปตามๆ กัน เรื่องยุ่งยากทางการงานยังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ การเสี่ยงโชคยังหวังได้ยาก ถ้ายังโสดจะได้คนรักที่เอาใจใส่ดี

ลัคนา (ลั) ราศีมีน
วันนี้ท่านจะพบปัญหาแปลกๆ ใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงในเรื่องที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ และถึงแม้ศัตรูจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไรต่อท่าน แต่พรรคพวกคู่ครองของเขาอาจทำให้เรื่องลุกลามใหญ่โตเกินความคาดหมายได้ การเงินรายได้เสมือนอยู่ในช่วงเข้าที่เข้าทาง ท่านควรรีบตีขึ้นรูปเหล็กร้อนตามที่ท่านต้องการ

ธรรมนัส ตรวจเยี่ยมงาน มหาลอยกระทงอยุธยา ชื่นชมตร.ท่องเที่ยว รักษาความปลอดภัยรัดกุม

ธรรมนัส ตรวจเยี่ยมงาน มหาลอยกระทงอยุธยา ชื่นชมตร.ท่องเที่ยว รักษาความปลอดภัยรัดกุม

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ บริเวณสนามข้างบึงพระราม ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมงาน “มหาลอยกระทงอยุธยา” (Maha Loi Krathong Ayutthaya 2025)

เวลาประมาณ 20.20 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมงาน “มหาลอยกระทงอยุธยา” (Maha Loi Krathong Ayutthaya 2025)

พร้อมได้เยี่ยมชมรถยนต์ควบคุมสั่งการณ์ CCOC Mobile ของตำรวจท่องเที่ยว สำหรับดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวภายในงาน

โดยมี พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1, พร้อมกำลังให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายแนะนำคุณสมบัติ

ทั้งนี้ท่านรองนายกได้ให้ความสนใจสนใจ และให้การชื่นชมตำรวจท่องเที่ยว สำหรับการดำเนินการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่รัดกุม

ณ บริเวณสนามข้างบึงพระราม ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา