ทางการปากีสถานได้เปิดสอบสวนในคดีอาชญากรรมต่อพรรคการเมืองของนายนาวาซ ชารีฟ อดีตนายกรัฐมนตรี ภายใต้กฏหมายต่อต้านการก่อการร้าย โดยการประกาศการสอบสวนดังกล่าวมีขึ้นเพียง 10 วันก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในปากีสถาน
การสอบสวนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการจัดการเดินขบวนของพรรคปากีสถานมุสลิมลีค-นาวาซ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยไม่สนใจคำสั่งห้ามที่ไม่อนุญาตให้มีการจัดเดินขบวนในที่สาธารณะ
ทั้งนี้นายชารีฟถูกควบคุมตัวทันทีหลังเครื่องบินที่เขาโดยสารมาเดินทางถึงปากีสถาน หลังจากที่นายชารีฟถูกศาลต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นตัดสินว่ามีความผิดโดยที่เจ้าตัวไม่ได้มาปรากฏตัวต่อศาล เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวคือนายเชห์บัซ ชารีฟ น้องชายของนายนาวาซ ชารีฟ ซึ่งเป็นผู้นำพรรคปากีสถานมุสลิมลีค-นาวาซคนปัจจุบัน รวมถึงสมาชิกคนสำคัญอีกหลายคนของพรรค ซึ่งรวมถึงนายซาฮิด คาคาน อับบาซี อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ที่รั้งเก้าอี้จนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่รัฐบาลชั่วคราวจะเข้ามาบริหารประเทศแทน
ทั้งนี้ได้มีการยกเอาข้อ 7 ของกฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งมีการให้คำจำกัดความเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เป็นการก่อการร้ายอย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมถึงการสร้างความหวาดกลัวต่อสาธารณะ นอกจากนี้ยังระบุว่ามีการละเมิดกฏหมายอาชญากรรม ซึ่งรวมถึงการจัดชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย รวมทั้งสิ้น 10 กระทง
ผลการสำรวจชี้ว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นการขับเคี่ยวอย่างสูสีระหว่างพรรคปากีสถานมุสลิมลีค-นาวาซ กับพรรคเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมปากีสถาน ซึ่งนำโดยนายอิมราน ข่าน อดีตนักกีฬาดัง ตามมาด้วยพรรคประชาชนปากีสถาน
รายงานข่าวระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพรรคการเมืองของนายชารีฟไม่ค่อยลงรอยกับกองทัพ ซึ่งปกครองปากีสถานมายาวนานหลายสิบปี ขณะที่การเดินทางกลับปากีสถานของนายชารีฟอาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง เนื่องจากเขากล่าวหาว่ากองทัพพยายามช่วยเหลือพรรคของข่านอยู่เบื้องหลัง
การออกมาตั้งข้อหาต่อแกนนำพรรคปากีสถานมุสลิมลีค-นาวาซดังกล่าว ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกพรรคว่าเป็นเพียงความพยายามอีกครั้งหนึ่งในการเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการใช้มาตรการกดดันต่อตัวผู้สมัครให้มีการเปลี่ยนพรรค รวมถึงตั้งข้อหาคอรัปชั่นต่อผู้นำพรรค ทั้งยังห้ามการเดินขบวนโดยสงบในช่วงเวลาใกล้การเลือกตั้งด้วย
