เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กรกฎาคม นี้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส. ได้เดินทางมาร่วมประชุมพิจารณาแผนการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน วนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แต่ละหน่วยงานได้เสนอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การจัดทำแผนฟื้นฟูฯได้ข้อสรุปและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ทั้งนี้ พล.อ.สุรศักดิ์ จะได้มอบเกียรติบัตรแก่เจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ จำนวน 657 นาย ที่เข้าร่วมในปฏิบัติการช่วยเหลือเยาวชนนักฟุตบอลทีมหมูป่าอคาเดมีและโค้ชทั้ง 13 คน ซึ่งเข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวงฯ โดยเป็นการมอบผ่านหัวหน้าหน่วยงาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุทยานฯ ได้เสนอร่างแผนการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ฉบับสมบูรณ์ ต่อพล.อ.สุรศักดิ์ โดยร่างแผนการฟื้นฟูฯ ดังกล่าว แบ่งออกเป็น 6 แผนงาน 34 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ 11 โครงการ และโครงการที่ดำเนินการในระยะต่อไปอีก 23 โครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้ แผนงานที่ 1 คุ้มครองดูแลทรัพยากร เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และคุ้มครองพื้นที่ให้กลับสู่สภาพธรรมชาติ มีความมั่นคงสมบูรณ์ เป็นฐานการพัฒนาควบคู่กับการอนุรักษ์อย่างสมดุลและยั่งยืน ประกอบด้วย 4 โครงการ ดำเนินการในระยะเร่งด่วน ได้แก่ 1.โครงการฟื้นฟูระบบนิเวศที่ได้รับผลกระทบบริเวณถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ บริเวณถ้ำหลวง อ่างเก็บน้ำขุนน้ำนางนอนและถ้ำทรายทอง โพรงหรือปล่องถ้ำ ฝายปิดกันทางน้ำ2.โครงการแบ่งเขตการบริหารจัดการ (Zoning) 3.โครงการสำรวจจัดทำแผนที่เพื่อเตรียมการประกาศพื้นที่เป็นอุทยานแห่งชาติ (แหล่งท่องเที่ยวถ้ำปลา ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในโครงการดอยตุ ง และพื้นที่ข้างเคียง) และ 4.โครงการประเมินสถานภาพภูมิประเทศเขาหินปูน เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวง ดำเนินการระยะต่อไป
แผนงานที่ 2 พัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากลโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ มีการพัฒนาระบบสื่อความหมายที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระดับโลก ประกอบด้วย 10 โครงการ ได้แก่ ดำเนินการระยะเร่งด่วน 1.โครงการสำรวจออกแบบวางผังบริเวณถ้ำหลวง2.โครงการปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกลานกางเต็นท์ ขุนน้ำนางนอน 3.โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์แหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอนกลับคืนสู่สภาพเดิม4.โครงการปรับปรุงและพัฒนาถนนลาดยางแบบมีไหล่ทางและรางน้ำ ภายในและภายนอกของแหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน ระยะทาง 10 กม. 5.โครงการจัดสร้างศาลาภาพเขียน ดำเนินการในระยะต่อไปประกอบด้วย 6.โครงการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ (ภายในและภายนอกถ้ำ) 7.โครงการจัดการขยะ8.โครงการสำรวจถ้ำเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ 9.โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 10.โครงการก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหน้าถ้ำ
แผนงานที่ 3 ดูแลและรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว จำนวน 6 โครงการ โดยเป็นโครงการในระยะต่อไป ได้แก่ 1.โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว 2.โครงการจัดหาวิทยุสื่อสารระบบดิจิตัล 3.โครงการจัดทำระบบควบคุมการเข้าออกถ้ำของนักท่องเที่ยว 4.โครงการจัดหาอุปกรณ์ในการเที่ยวถ้ำเช่น อุปกรณ์หมวกนิรภัย ไฟฉายติดหัว 5.โครงการฝึกซ้อมการกู้ภัย 6.โครงการจัดตั้งศูนย์กู้ภัยประจ้าถ้ำหลวง แผนงานที่ 4 วิจัยและพัฒนาเพื่อให้พื้นที่เป็นแหล่งศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นโครงการในระยะต่อไป จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการจัดทำแผนแม่บท2.โครงการศึกษาขีดความสามารถในการรองรับได้ด้านนันทนาการ 3.โครงการศึกษาอุทกธรณี วิทยา (Hydrogeology) 4.โครงการศึกษาด้านธรณีวิทยาถ้ำ 5.โครงการสำรวจการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยเทคโนโลยี ภูมิศาสตร์ถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน 6.โครงการประเมินศักยภาพและการจัดช่วงชั้นโอกาสด้านนันทนาการของทรัพยากรการท่องเที่ยวและนันทนาการ เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน 7.โครงการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน
และ 8.โครงการจัดทำโมเดลแบบจำลองถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน แผนงานที่ 5 เพิ่มประสิทธิภาพและการบูรณาการในการบริหารจัดการ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ ความรู้และทักษะความรู้กับการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานให้เพิ่มขึ้น ดำเนินการในระยะเร่งด่วน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ 2.โครงการจัดหายานพาหนะและวิทยุสื่อสาร3.โครงการกำหนดมาตรการการท่องเที่ยวถ้ำหลวงและขุนน้ำนางนอน และแผนงานที่ 6 ส่งเสริมการมีส่วนร่วม เพื่อมุ่งเน้น การส่งเสริมและสนับสนุนการมี ส่วนร่วม ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ในพื้นที่ โดยอาศัยความร่วมมือ เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนตลอดไป ดำเนินการในระยะต่อไป จำนวน 3โครงการ ได้แก่1.โครงการส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นในการบริการการท่องเที่ยวในพื้นที่ 2.โครงการอบรมอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ3.โครงการอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
