30 วัน! รู้ผล ‘คลิปเสียง’ จ่าย3 แสนพลิกคดี ‘ศรีวราห์’ เผย 3 หลักฐานมัด ‘อ๊อฟ’ ฆ่าน้องหญิง

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าจังหวัดยะลา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.)กล่าวถึงความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของน.ส.นีรกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง วัย 19 ปี ซึ่งมีนายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำตกเป็นผู้ต้องหา ว่าในประเด็นที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมและครอบครัวของน้องออกมาระบุว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อไม่ให้ดำเนินคดีต้องหาในตอนแรกและไม่มั่นใจในการทำคดีของ ตำรวจภูธรบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจภาค1 รวมทั้งมีการข่มขู่พยาน ว่า ในประเด็นที่อ้างว่ามีคลิปเสียงเรื่องการเรียกรับสินบน 300,000 บาทนั้นตนได้ฟังแล้วก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบ ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งมีคำสั่งตั้งไปเมื่อวานนี้จะดำเนินการตรวจสอบทั้งการตรวจสอบคลิปว่าเป็นคลิจริงหรือไม่ รวมถึงกรณีที่มีการกล่าวหาต่างๆ เรื่องนี้สั่งการให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยให้เวลา 30 วันในการไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานมายังตนด้วย

รองผบ.ตร. กล่าวว่า ในส่วนของการสอบสวนคดีอาญานั้นเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ขณะนี้การสอบสวนคดียังอยู่ในความรับผิดชอบของท้องที่เกิดกองบัญชาการภูธรภาค 1ส่วนกองบังคับการปราบปรามก็มีหน้าที่สืบสวนอยู่ ขณะนี้ตนกำลังพิจารณาว่าจะสั่งการในเรื่องนี้อย่างไรเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการทำคดีทั้งต่อผู้เสียหายและต่อภาพรวมทั้งหมดมากที่สุด โดยแนวทางดังนี้ 1.ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจชาติแล้วดึงคดีทั้งหมดมาทำ 2. ยังคงให้ตำรวจภูธรภาค 1เป็นผู้รับผิดชอบทำคดี 3.ให้กองบังคับการปราบปรามทำคดี และ 4. ให้ร่วมกันทำงาน โดยให้พนักงานสอบสวนเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแต่มีอีกหน่วยร่วมสืบสวน อย่างไรก็ตามการที่ตนจะพิจารณาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับระเบียบกฎหมาย คำนึงถึงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นหลัก

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่อ้างว่ามีการข่มขู่พยานที่เกี่ยวข้องนั้นสั่งการให้ไปตรวจสอบและดูแลแล้ว อย่างไรก็ตามคดีนี้พยานบุคคลมีความสำคัญน้อยมากแต่พยานแวดล้อมอื่นๆทั้งไทม์ไลน์ของการสื่อสารไทม์ไลน์ของสัญญาณจีพีเอส รวมถึงพยานแวดล้อมที่ระบุชัดเจนว่านายสุรพล หรืออ๊อฟอยู่กับผู้ตายเพียงสองคนก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเสียชีวิต ก็มีความชัดเจนมีน้ำหนักมั่นใจจนสามารถแจ้งข้อหาได้แล้ว แม้ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานทางการแพทย์อย่างเป็นทางการถึงผลชันสูตรสาเหตุการตาย แต่จากการสืบสวนในมุมของนักสืบชัดเจนแล้วว่าน้องหญิงไม่ได้เสียชีวิตด้วยตนเอง รอยต่างๆไม่ได้ทำเอง ไม่ได้ตกจากรถ ทั้งตอนรถหยุดหรือรถวิ่ง ตามที่มีการกล่าวอ้าง ของผู้ต้องหาแน่นอน แต่ถูกค้อนตีที่ท้ายทอยจนเสียชีวิต ในทางสืบสวนรอยที่ท้ายทอยของน้องหญิงและค้อนที่ยึดได้เป็นวัตถุพยานหรือที่สงสัยอาวุธมีความสัมพันธ์กัน แต่อย่างไรก็ตามในการทำสำนวนคดีในชั้นศาลจะต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีรายงานรับรองอย่างเป็นทางการ

“คดีนี้มั่นใจในหลักฐาน 100% จึงดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาขณะนี้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสุรพลสามข้อหาคือหนึ่งกักขังหน่วงเหนี่ยว สองทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและสามเจตนาฆ่า แม้ผู้ต้องหายังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแต่พนักงานสอบสวนและการสืบสวนมั่นใจในพยานหลักฐาน ส่วนคนอื่นๆยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม คดีนี้ตนยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมแน่นอน”รองผบ.ตร.กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image