หอยมุกน้ำจืด เป็นหอยกาบน้ำจืดหรือหอยสองฝาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนะครับ โดยลักษณะทั่วไปเปลือกจะหนา ความยาวเปลือก 18-20 เซนติเมตร ที่สำคัญมีภายในมีความวาวของชั้นมุกที่หนา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ เครื่องใช้ เครื่องสำอาง และยา ส่วนเนื้อก็นำมาบริโภคได้
หอยมุกน้ำจืดมีชีววิทยาการสืบพันธุ์และวงจรชีวิตเช่นเดียวกับหอยสองฝาน้ำจืด ทั่วไปครับ โดยมีการสืบพันธุ์แบบแยกเพศ ซึ่งในฤดูผสมพันธุ์หอยเพศเมียจะได้รับเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้เข้ามาทางท่อน้ำ เมื่อไข่ได้รับการปฏิสนธิจะถูกเก็บรักษาไว้ในเหงือกและพัฒนาเปลี่ยนแปลงรูปร่างกลายเป็นตัวอ่อนจากนั้นจะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ระบบปิดหรือกึงปิด โดยจะใช้ปลานิลเป็นแหล่งอาหารฝากลูกหอยให้เกาะตามเงือกดูดกินเลือดจากปลา เมื่อลูกหอยมีขนาดความยาวเปลือก 1 เซนติเมตร ก็จะย้ายไปเลี้ยงต่อในกระบะทราย และเมื่อความยาวเปลือก 3 เซนติเมตร ก็จะคัดแยกมาเลี้ยงต่อในกระชังแบบนี้แระครับ
สำหรับการเลี้ยงหอยมุกน้ำจืด จะใช้ระยะเวลาเลี้ยงหลายปีครับ เนื่องจากลูกหอยระยะแรกมีขนาดเล็กเพียง 200 ไม่ครอนเท่านั้น โดยหอยที่จะนำมาปลูกถ่ายเนื้อเยื่อเพื่อให้เกิดมุกนั้นจะต้องมีอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้คุณภาพ ของไข่มุกขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ซึ่งต้องอาศัยเทคนิคความชำนาญและความอดทนในการฝึกฝน
ไข่มุกที่เพาะเลี้ยงได้ จะมีทั้งหมด 13 เฉดสี โดยหอยที่ปลูกถ่ายเนื้อเยื้ออายุ 2 ปี จะได้ไข่มุกขนาด 6 มิล อายุ 3 ปี จะได้ไข่มุกขนาด 8 มิล มากกว่า 3 ปี จะได้ไข่มุกขนาด 1 เซนติเมตรขึ้นไป
สำหรับไข่มุกน้ำจืด รูปทรงสวยงามจะนำไปทำเครื่องประดับ เช่น ต่างหู เข็ดกลัดติดเสื้อ สร้อย แหวน ส่วนที่รูปร่างไม่ดี จะนำมาบดทำเครื่องสำอาง อาหารเสริม และเปลือกจะแกะสลักเป็นพระพุทธรูป หรือ ของใช้ต่างๆ
