รัชกาลที่ 9 ทรงสถิต ในดวงใจไทยนิรันดร์

แม้เวลาผ่านมา 2 ปีแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จสู่สวรรคาลัย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559
หัวใจไทยทุกดวงก็มิอาจลืมเลือนความระทมนี้ไปได้

ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงปฏิบัติมาตลอด 70 ปี ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งความอยู่ดีกินดีร่มเย็นเป็นสุขของราษฎรทุกหมู่เหล่า และนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนของประเทศชาติ

จากปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
นับแต่นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงทุ่มเทพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยตลอดรัชกาล

พระองค์เสด็จฯไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะห่างไกล การคมนาคมจะยากลำบาก หรือเป็นดินแดนแห้งแล้งทุรกันดาร พระองค์ทรงบากบั่นเสด็จฯไปทั่วทุกพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2495 เป็นต้นมา ทรงตระหนักในความเป็นอยู่ของราษฎรที่ต้องเผชิญปัญหาที่ทำกินและการดำรงชีพ โดยพึ่งพาธรรมชาติ จึงมีพระราชดำริแก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อน ปรากฏเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน
รัชสมัยมากกว่า 4,600 โครงการ

Advertisement

จะมีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกทรงใช้ที่ประทับส่วนพระองค์ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นสถานที่ทดลองการศึกษา ทดลองทางเกษตรกรรม การปศุสัตว์ และการศึกษาทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะสามารถนำไปปรับใช้ และพระราชทานแก่ราษฎรในท้องถิ่นต่างๆ ได้

พระองค์ทรงเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถ ทรงให้ความสำคัญการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านการเกษตร, การชลประทาน, ดิน, ฝนหลวง, ป่าไม้, พลังงาน, การสาธารณสุข, การศึกษา, การแพทย์, การสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ พระองค์ทรงเป็นพระราชาที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทูลเกล้าฯถวาย

รางวัลให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางพระราชดำริ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเป็นที่ชื่นชมของอารยประเทศ

Advertisement

โดยในปี 2549 สหประชาชาติ โดยนายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ทูลเกล้าฯถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุด ด้านการพัฒนามนุษย์” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อเทิดพระเกียรติในพระปรีชาสามารถ และพระราชกรณียกิจในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรไทยตลอดรัชสมัย

ด้วยพระราชจริยวัตรอันงดงาม น้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น พระเมตตาอันหาประมาณมิได้ พระมหากรุณาธิคุณอันแผ่ไพศาล ที่ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ปวงชนชาวไทยมาตลอด 7 ทศวรรษ ทรงมิได้ครองแผ่นดินเท่านั้น หากทรงครองหัวใจคนไทยทุกดวง แม้วันนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร

มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะเสด็จสู่สวรรคาลัย พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ปกเกล้าฯชาวไทยไม่เสื่อมคลาย แนวพระราชดำริต่างๆ ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างน้อมนำมาปฏิบัติเพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอดอย่างยั่งยืน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ยังคงสถิตอยู่ในหัวใจคนไทยตราบนิจนิรันดร์

เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม 2561 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พุทธศักราช 2561 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

รัฐบาลเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 ตุลาคม 2561 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบด้วย กิจกรรมทำบุญตักบาตร เวลา 05.30-07.30 น. ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี พร้อมคู่สมรส จะเข้าร่วมกิจกรรม

จากนั้นเวลา 08.45-09.00 น. จะมีพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทร

มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ท้องสนามหลวง และในช่วงเย็นเวลา 18.45 น. ณ ท้องสนามหลวง จะมีพิธีถวายบังคมและจุดเทียนเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมทั้งจะมีการยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที พร้อมเปิดเพลงพระผู้ทรงเป็นนิรันดร์ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี พร้อมภริยา เข้าร่วมพิธี
และเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างพร้อมใจกันจัดงานเพื่อน้อมรำลึกและเทิดทูนพระเกียรติคุณ “พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง” ของปวงชนชาวไทย
หัวใจไทยทุกดวงยังคงรักและคิดถึงพระองค์มิเสื่อมคลาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image