นายกฯ โชว์ไทยขยับจากอันดับที่ 40 อยู่ 38 ความสามารถในการแข่งขันระดับโลก

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาตอนหนึ่งว่า มีเรื่องที่น่ายินดี สำหรับคนไทยทุกคน เกี่ยวกับผลการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก 4.0 ประจำปี 2018 ของ World Economic Forum (WEF) ในปีนี้ ประเทศไทยมีอันดับ และคะแนนดีขึ้น ถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ความเป็น 4.0 มากขึ้น โดยปรับมาอยู่ในอันดับที่ 38 จาก 140 ประเทศทั่วโลก จากเดิมอยู่ในอันดับที่ 40 เมื่อปีที่แล้ว สำหรับในอาเซียน นั้น ไทยอยู่อันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย ส่วนในกลุ่มอาเซียน +3 ไทยอยู่อันดับที่ 6 จาก 12 ประเทศ รองจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และจีน ซึ่งก็เป็นอันดับคงที่มาหลายปี แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการแข่งขันที่มั่นคงของไทยในเวทีนี้ ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ไทยถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ไม่ได้มีรายได้ต่อประชากร ในระดับที่สูง แต่ยังสามารถเข้ามาอยู่ใน 40 อันดับแรก ของโลกได้  ในขณะที่อีก 2 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อันดับที่ 25 และจีน อันดับที่ 28

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คะแนนเหล่านี้ เป็นผลมาจากเก็บข้อมูลเชิงลึก จากการสอบถามผู้บริหารระดับสูงขององค์กรขนาดใหญ่ และขนาดย่อมในทุกภาคอุตสาหกรรม โดยเทียบกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ มีเกณฑ์การประเมิน 12 ด้าน 98 ตัวชี้วัด ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งด้านระบบการเงิน อยู่ในอันดับ 14 ของโลก เพราะมีความพร้อมด้านเงินทุน วงเงินสินเชื่อ ที่ให้กับเอกชน ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน  ต่าง ๆ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ของSMEs และสตาร์ทอัพ รวมถึง เสถียรภาพของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีจุดแข็งด้านขนาดของตลาด อยู่ในอันดับ 18 ของโลก  มาจากการที่บริษัทต่าง ๆ สามารถเข้าถึงตลาดภายในประเทศ  การลงทุน และการส่งออก หรือ ตลาดต่างประเทศ ได้สะดวก
“อย่างไรก็ตามเราก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะก้าวสู่ความเป็น 4.0 ให้ได้มากขึ้น เช่น ด้านการแข่งขันภายในประเทศ ซึ่งไทยอยู่ในอันดับที่ 92 ของโลกสำหรับเรื่องของการแข่งขันภายในประเทศ นั้น เราจะต้องเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ ได้แข่งขันกันอย่างเท่าเทียม  กฎระเบียบไม่ซับซ้อน ซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมในด้านต่างๆ ได้มากขึ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image