ผู้สื่อข่าวรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ภาคเช้าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปรับลดลง 8.34 จุด หรือลดลง 1.57% นำโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 40.25 บาท ลดลง 0.25 จุด หรือลดลง 0.62% ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 203.0 บาท ลดลง 3.0 จุด หรือลดลง 1.46% ธนาคารซีไอเอ็มบี หรือ CIMBT ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 0.81 บาท ลดลง 0.01 จุด หรือลดลง 1.22% ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 192.50 บาท ลดลง 4.0 จุด หรือลดลง 2.04% ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 70.0 บาท ลดลง 0.25 จุด หรือลดลง 0.36%
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LHFG ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 1.45 บาท ลดลง 0.02 จุด หรือลดลง 1.36% ธนาคาคไทยพาณิชย์ หรือ SCB ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 133.50 บาท ลดลง 3.0 จุด หรือลดลง 2.2% ธนาคารธนชาต หรือ TCAP ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 51.5 บาท ลดลง 0.75 จุด หรือลดลง 1.44% ธนาคารทิสโก้ หรือ TISCO ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 79.0 บาท ลดลง 0.75 จุด หรือลดลง 0.94% และธนาคารทหารไทย หรือ TMB ราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 2.26 บาท ลดลง 0.06 จุด หรือลดลง 2.59%
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดลงหลายจุด เนื่องจากเกิดความกังวลภายหลังสภาพัฒน์ฯ ประกาศอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3/2561 ที่ 3.3% ต่ำกว่าที่คาด ทำให้เกิดความกังวลว่าการขยายตัวของสินเชื่อที่กำลังเติบโตดี จะมีปัญหาหรือไม่ นอกจากนี้การที่เศรษฐกิจชะลอตัวจะทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นหรือไม่ด้วย ทั้งนี้แม้ว่าดอกเบี้ยอยู่ในข่วงขาขึ้น แต่การที่จีดีพีชะลอตัว จึงยากที่จะเห็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนธันวาคม 2561 ต่อเนื่องถึงช่วงต้นปี ซึ่งประเมินว่าทางกนง.น่าจะคงดอกเบี้ยไว้ก่อน ตลาดจึงตอบรับความผิดหวังนี้
