จากกรณีที่การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา นายสมบัติ เอื้อมมงคล ชนะการเลือกตั้งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ดำรงตำแหน่งมาถึง 7 สมัยติดต่อกัน ก่อนที่ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อุปนายกสมาคมฯในฐานะประธานการเลือกตั้งคัดค้านพร้อมเสนอให้มีการพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะโดยให้เหตุผลว่ามีความไม่ชอบมาพากลนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายธานี แสนยาอุโฆษ ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายทะเบียนในการประชุมใหญ่สามัญ เมื่อวันที่ 23 มกราคมได้เชิญผู้แทนของคณะกรรมการชุดเก่าที่มีนายสุวัจน์เป็นนายกฯ และนายสมบัติ ที่ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ มาตรวจสอบเอกสารผู้ลงทะเบียนในการเลือกตั้ง ที่ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เมืองทองธานี
นายธานีได้นำคณะสื่อมวลชนไปยังห้องควบคุมการแข่งขันซึ่งเป็นที่เก็บเอกสารการเลือกตั้ง และนำเอกสารดังกล่าวให้ตัวแทนสื่อมวลชนเป็นคนกลางถือ ก่อนจะส่งมอบให้ พล.อ.ธวัชชัยนำไปตรวจสอบ รวมทั้งให้นายสมบัติได้รับทราบว่ามีการมอบเอกสารให้อีกฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งก่อนจะมอบเอกสารนั้น พล.อ.ธวัชชัยได้แสดงอาการไม่พอใจและต่อว่าผู้ถือเอกสารว่า “รู้ๆ กันอยู่ว่ามีการโกงเลือกตั้ง”
หลังจากนั้น พล.อ.ธวัชชัยและคณะกรรมการชุดเก่าได้ร่วมกันประชุมก่อนจะแถลงข่าวคัดค้านการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ โดยให้เหตุผล 3 ข้อ คือ 1.ผู้แทนของบางสโมสรไม่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นตัวแทนของสโมสรนั้นๆ เท่าที่ผ่านมาตนเห็นบุคคลกลุ่มนี้เป็นประจำและจำได้ บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ของลอนเทนนิสฯด้วยซ้ำ จึงไม่น่าเชื่อถือว่าเป็นตัวแทนของสโมสรสมาชิกจริงๆ 2.รูปแบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา มักจะลงคะแนนเสียงแบบเปิดเผย แต่ครั้งนี้ให้ลงคะแนนเสียงในทางลับ จึงเป็นที่น่าสงสัย 3.เมื่อจะขอตรวจสอบเอกสารการเลือกตั้ง ห้องที่เก็บกลับถูกปิดล็อก โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายสมบัติสั่งให้ล็อกประตูทุกห้อง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอำนาจสั่งการ และตนได้เปิดเข้าไปแล้ว แต่ไม่พบเอกสาร จึงได้แจ้งความกับตำรวจในท้องที่เพื่อให้ดำเนินการสืบสวน
“การเลือกตั้งในวันที่ 23 มกราคมไม่สุจริต ขัดกฎหมาย ขัดข้อบังคับของสมาคม รวมทั้งผิดพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 จึงให้การประชุมในวันนั้นเป็นโมฆะ และผมจะไปพบกับผู้ว่า กกท.(นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย) เพื่อแจ้งถึงความทุจริตที่เกิดขึ้น” พล.อ.ธวัชชัยกล่าว
ด้านนายสมบัติกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กังวลเพราะทำถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ไม่ได้คิดจะมาสู้กับนายสุวัจน์ เพราะที่ผ่านมาเคยร่วมงานมาก่อนเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว แต่มีตัวแทนของหลายสโมสรขอให้เข้ามาช่วยดูแลทั้งการเพิ่มสนามเทนนิส การปั้นดาวรุ่งเหมือนที่เคยมี “ซุปเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ มาเป็นความหวังในวงการเทนนิสไทย แต่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นความหวังในระยะใกล้อยากให้มีนักหวดไทยติดอันดับท็อป 100 ของโลกให้ได้มากที่สุด ด้านการสนับสนุนให้ไปฝึกซ้อมในอคาเดมีระดับโลก สนับสนุนให้ออกไปแข่งขันอาชีพให้มากที่สุด
“ผมเข้ามาด้วยความสุจริต ผมได้ดีทุกวันนี้เพราะเทนนิส อนาคตอยากเห็นนักเทนนิสไทยไปสู่ระดับโลก ผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ หลังจากนี้อีกฝ่ายจะไปฟ้องศาลปกครอง หรือ กกท.ก็แล้วแต่ แต่ผมยืนยันว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อประโยชน์ของวงการเทนนิสไทย” นายสมบัติกล่าว
