ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าไปฆ่าโหด หลวงตาคำตา อินทะวโส อายุ 86 ปี ภายในกุฏิ วัดมะยาง ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ โดยคนร้ายใช้พริกป่นโรยใส่ตาของหลวงตาแล้วใช้อาวุธไม่ทราบชนิดทำร้ายหลวงตาชราจนเสียชีวิตหน้าห้องน้ำใน เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.61 แต่จนบัดนี้คดียังไม่คืบหน้า และยังไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายได้ นายวิรัตน์ หารไชย อายุ 53 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 16 ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางทิพภา จันทร์หอม อายุ 50 ปี จึงได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 17 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วงแรกตนได้รับรายงานว่า หลวงตาคำหกล้มเสียชีวิตภายในกุฏิ แต่เมื่อมีการตรวจชันสูตรแล้วพบบาดแผลร่องรอยของการถูกทำร้ายหลายแห่งตามร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณศีรษะ ดังนั้น ตนจึงได้เรียกประชุมด่วน เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ ผกก.สภ.ราษีไศล และชุดสืบสวน สภ.ราษีไศล ซึ่งจากการที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ได้ตั้งประเด็นของการฆาตรกรรมครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องชิงทรัพย์ และเรื่องส่วนตัว โดยตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบปากคำพระในวัด และญาติพี่น้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาเบาะแสของคดีนี้ โดยได้จัดตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อคลี่คลายคดีนี้ มี รอง ผบก.จว.ศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็ว ๆ นี้
นายวิรัตน์ หารไชย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 16 ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นลูกชายของหลวงตาคำตาที่ถูกฆ่าโหด กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (17 ธ.ค. 61) ได้มีเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ราษีไศล จำนวน 4 นาย ได้มาพบกับตน และแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และกำลังเร่งติดตามจับกุมคนร้ายคดีนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งตนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ราษีไศลทราบว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องข่าวที่ตนได้ร้องทุกข์กับสื่อมวลชนทุกแขนง ขอให้เจ้าหน้าที่ ตร.ทำงานตามหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เพราะว่า ตนต้องการให้มีการเร่งรัดในการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงได้ไปร้องทุกข์กับสื่อมวลชน ตนไม่อยากให้คดีนี้เงียบหายไป เพราะว่าหลวงตาถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดมานานหลายวันแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายแจ้งให้ญาติพี่น้องผู้ตายและชาวบ้านมะยางทราบแต่อย่างใด
