ตำรวจบุกตรวจโกดังเก็บไม้พะยูง-ไม้สักทองพร้อมอาวุธปืนที่ปากช่อง

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก.สภ.ปากช่อง พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพพร ปราชญ์กระโทก สว. (สอบสวน) สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร่วมกับนายบรรเจิด มากศิริ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบไม้พะยูงแปรรูปและไม้สักท่อน ที่บริเวณโกดังด้านหลัง บ้านเลขที่ 78/1 หมู่ 8 บ้านทรายทอง ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.ภ.3 ได้รับการร้องเรียน ว่าบริเวณบ้านเลขที่ดังกล่าวปลูกด้วยไม้สักทั้งหลัง และมีการนำไม้หวงห้ามทั้งแปรรูปแล้วและยังไม่แปรรูป มาเก็บซ่อนไว้เป็นจำนวนมาก อาจจะเป็นแหล่งสะสมไม้พะยูงมาเก็บเพื่อส่งขายต่อ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นและพบไม้พะยูงแปรรูป จำนวน 75 เหลี่ยม/ท่อน ไม้สักท่อน 72 ท่อน และพบอาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ ยี่ห้อโคลท์ สีดำ ขนาด .357 และกระสุนปืน .357 แม็กนั่ม 6 นัด ร่วมกันตรวจยึดและอายัดไว้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ที่แปลกใจคือ ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้าม แต่พบว่ามีการตีตราบนหน้าท่อนไม้แต่ละท่อนและนำมาเก็บซ่อนไว้ มูลค่าหลายล้านบาท

พ.ต.ท.นพพร ปราชญ์กระโทก สว. (สอบสวน) สภ.ปากช่อง ได้เรียกนายเสงี่ยม บุรีรัมย์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านเข้าให้ปากคำเนื่องจากนายเสงี่ยมอ้างว่าอยู่ในการครอบครองของตัวเองทั้งหมด ตามคดีอาญาที่ 1746/61 ยึดทรัพย์ที่ 871/61 พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารอาวุธปืน สำหรับปืนได้ซื้อมาจากเจ้าหน้าที่เป็นปืนของโครงการตำรวจ แต่เอกสาร ป.4 ยังหาไม่เจอ พ.ต.ท.นพพรจึงแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย พร้อมให้ประกันตัวไป ส่วนการครอบครองไม้พะยูงและไม้สัก ต้องรอเอกสารการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ นม.1 (ปากช่อง) ยืนยัน แต่ที่แปลกใจ ทำไมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ถึงไม่ยึดและนำไม้ไปเพราะการครอบครองไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์เพื่อจะสอบถามรายละเอียดกับนายบรรเจิด มากศิริ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) แต่ไม่รับสายโทรศัพท์มือถือ อาจจะเนื่องจากเป็นวันหยุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image