เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 2 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมความชัดเจนทางการเมือง หลังพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมเชิญเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรค รอเพียงนายกฯ ส่งสัญญาณความพร้อมเท่านั้น ว่า ยังมีเวลาตัดสินใจ ขอศึกษาดูก่อน
“ตอนนี้อยากให้ประชาชนได้ศึกษาแนวทางของแต่ละนโยบายของพรรคการเมืองก่อน ไม่ใช่ดูเฉพาะพรรค พปชร. ต้องมองทุกพรรคถึงความเป็นไปได้ของนโยบายที่ออกมาแล้วทั้งหมด และดูว่ารัฐบาลปัจจุบันทำอะไรไปแล้วบ้าง เพราะบางทีกล่าวซ้ำกับสิ่งที่เราทำไปแล้ว และเอาไปขยาย ในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ อันนี้ต้องระวัง ไม่อย่างนั้นจะเสียหาย เดี๋ยวประชาชนเชื่อมั่นไปแล้ว เมื่อถึงเวลาแล้วทำไม่ได้จะทำอย่างไร ฉะนั้นอยากฝากประชาชนทุกคน ในเมื่อได้คาดหวังจากการเลือกตั้งเมื่อออกนโยบายต่างๆมาแล้ว ท่านจะต้องจำคำของท่านให้ได้ว่าจะทำอย่างไรอย่างที่ว่ามา ไม่ใช่ว่าวันหน้าพอเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาล แล้วก็ลืมกันหมด วันนี้ประชาชนต้องตัดสิน ต้องดูให้ดีว่าอะไรคืออะไร ผมเองก็กำลังดูอยู่ นโยบายหลายพรรคก็น่าสนใจ ซึ่งมี 2 อัน ส่วนที่ 1 ตอนนี้เราก็ศึกษาดูว่านโยบายพรรคนี้เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้ทุนการศึกษา ซึ่งตอนนี้ผมเป็นรัฐบาลอยู่ ก็รู้ว่าการใช้จ่ายงบประมาณเป็นอย่างไร ฉะนั้นถ้าเราพูดไปแล้วทำไม่ได้ อย่างนี้มันเสียหาย ถ้าพูดอะไรเสียหายและเป็นไปไม่ได้ ผมก็ไม่เห็นด้วย ผมไม่ได้กล่าวถึงพรรคใด หลายคนก็เสนอจะทำนู้นทำนี้ ซึ่งบางอันเราทำอยู่แล้ว และไปพูดเหมือนกับเราไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างนี้มันไม่ใช่ บิดเบือนหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอให้ซื่อสัตย์ต่อตัวเองกันหน่อยแล้วกันส่วนที่ 2 เมื่อดูนโยบาย และความเป็นไปได้ ผมก็จะตัดสินใจว่าจะชอบพรรคใด เป็นการตัดสินใจของผม เพราะผมต้องไปเลือกตั้งด้วย ดังนั้นการจะเลือกพรรคไหนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การจะเป็นนายกฯหรือไม่ก็แล้วแต่ใครจะมาขอผม ซึ่งตอนนี้มีให้ผมตัดสินใจ 2 อย่าง ขอให้ใจเย็นๆวันนี้อยู่กับฉันไปก่อน เธอจะรีบไปไหน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกแล้ว การประชุม ครม.สัญจรยังจะมีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานของนายกฯ ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคการเมือง ทุกคนก็ระมัดระวังกันอยู่แล้ว วันนี้รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ปัญหา ถ้ามาบอกว่าฉันไม่ต้องไปหาใคร ไม่ต้องไปเจอกัน ไม่ต้องไปติดตามงานเลย แล้วถ้าเกิดความเสียหายใครจะรับผิดชอบ ฉันอีกหรือเปล่า ดังนั้นฉันต้องไปฟังประชาชน แต่ฉันไม่ได้ไปหาเสียงให้ใคร เข้าใจหรือไม่ หรือจะหาเสียงให้ตัวเองก็ไม่ใช่ เพราะไม่ได้ลงเลือกตั้ง เข้าใจหรือไม่