นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “การสื่อสารนโยบายสู่ภาคปฏิบัติของกระทรวงพลังงาน ปี 2562” ว่า ร่างแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศไทย(PDP) ฉบับใหม่ปี 2561-80 จะมีการนำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ล่าสุดได้เลื่อนจากกำหนดเดิม 7 มกราคม เป็นเดือนกุมภาพันธ์ โดยเนื้อหาสาระหลักของแผนจะมีการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจากเดิม 20% เป็น 30% จำนวนนี้รวมพลังงานน้ำและการผลิตไฟใช้เอง(ไอพีเอส) โดยเฉพาะการส่งเสริมผลิตและติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป) ภาคประชาชนจำนวน 10,000 เมกะวัตต์ ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) อยู่ระหว่างร่างเงื่อนไขหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้เพื่อนำเข้า กพช.ให้ทันในเดือนกุมภาพันธ์นี้
“โซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนจะเน้นผลิตในภาคครัวเรือนและใช้เองเป็นหลัก ที่เหลือจะรับซื้อในราคาขายส่ง รายละเอียด กกพ.กำลังทำอยู่ ปี 2562 อาจนำร่อง 100 เมกะวัตต์ แต่จะเป็นส่วนที่รับซื้อเท่าใดต้องมาดู ขณะเดียวกันก็จะมีการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าชีวมวลชีวภาพ อาทิ การนำผักตบชวามาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเข้าระบบนั้นคงจะเริ่มปี 2570-2580 เพราะขณะนี้ไฟฟ้ายังเพียงพอ ส่วนระยะนี้เป็นการส่งเสริมในรูปแบบการผลิตเองใช้เองเป็นหลัก ควบคู่กับการส่งเสริมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน 10,000 เมกะวัตต์” นายกุลิศกล่าว
นายกุลิศกล่าวว่า นอกจากนี้ในแผนพีดีพีจะมีการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง อาทิ โรงไฟฟ้าน้ำพอง 700 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแม่เมาะโรงใหม่ 700 เมกะวัตต์ ซึ่งในส่วนของน้ำพองกำลังพิจารณาว่าก๊าซธรรมชาติจะใช้จากส่วนใด อาทิ แหล่งภูฮ่อม, การต่อท่อก๊าซจากนครราชสีมา หรือการขนส่งในรูปแบบแอลเอ็นจี
