ที่กระทรวงพาณิชน์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และกระทรวงสาธารณสุข เกือบ 3 ชั่วโมงว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)มีมตินำสินค้ายา เวชภภัณธ์ และค่าบริการทางการแพทย์ขึ้นเป็นสินค้าและบริการควบคุม ก็มีกระแสขัดแย้งในสังคมมาก จึงได้เชิญได้ประชุมนัดพิเศษเพื่อรับฟังข้อมูลเชิงลึกจากทุกฝ่าย เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปหารือและทบทวนภายในกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องการกำหนดมาตรการบังคับใช้และการนำมติกกร.เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตามกำหนดเดิมที่จะเสนอภายในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่
“ มีข่าวลือว่ามีการล้อบบี้นั้นไม่จริง และไม่มีใครมาล้อบบี้ผม แต่เห็นว่าเมื่อมีการมติกกร.ออกไปก็มีกระแสขัดแย้งทั้งไม่เห็นด้วยและเห็นด้วย จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่เกิดผลกระทบวงกว้าง โดยขอยืนยันจุดยืนว่าต้องดูแลประชาชนที่ได้รับการคุ้มครอง แต่เมื่อหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องก็ได้ข้อมูลว่าเป็นเรื่องยากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะมีความหลากหลายและสลับซับซ้อน เนื่องจากโรคหนึ่งโรค มีวิธีการักษาหลายแบบ ทั้งตัวผู้ป่วย การจ่ายยา ค่าตัวแพทย์ และการบริการ มีความแตกต่างกัน อีกทั้งทุกส่วนยังเกี่ยวพันกันทั้งหมดและยังกระทบกับระบบดูแลสุขภาพโดยรวมของประเทศ ดังนั้น จึงต้องมีการหารืออย่างรอบคอบ โดยจำเป็นต้องรับฟังทุกส่วนในเชิงลึก เพื่อวางมาตรการเป็นโครงร่างที่ชัดเจนก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าทำเอามันเพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ขอให้สบายใจว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าทำเรื่องนี้ต่อ แต่ต้องดูในเกิดสมดุลทั้งประชาชน ผู้ประกอบการต้องเดือดร้อน และเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ต้องรอการหารือก่อนดูผลกระทบในวงกว้าง ยังบอกไม่ได้ว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.ได้เมื่อไหร่ ยังยืนยันว่าไม่มีใครมาล็อบบี้ให้ถอนมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)โดยจะได้ข้อสรุปในสัปดาห์หน้า
