“อุทยานฯ-หน่วยซีล” ระดมผู้เกี่ยวข้องลุยกู้อุปกรณ์ปฏิบัติการถ้ำหลวงครั้งแรกหลังช่วยหมูป่า(มีคลิป)

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่อาคารภายในสำนักงานวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้จัดให้มีการประชุมเจ้าหน้าที่อุทยานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมจะเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการปิดปากถ้ำหลังเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ค. 61 ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดปากถ้ำด้วยรั้วโลหะเพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปได้เข้าไปภายในถ้ำเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากเคยมีน้ำไหลออกมาในปริมาณมาก และหลังจากนั้นก็มีคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเดินทางไปดูเป็นบางครั้งแต่ก็เข้าไปถึงบริเวณปากโถงที่ 1 หรือปากถ้ำเท่านั้นยังไม่มีการเข้าไปสำรวจภายในถ้ำอีกเลย หลังปฏิบัติการช่วยเหลือแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา

ซึ่งการประชุมมีขึ้นหลังจาก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปตรวจบริเวณถ้ำเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 62 ที่ผ่านมา และพบว่าระดับน้ำภายในถ้ำได้แห้งสนิทลงโดยไม่มีน้ำไหลออกมาอีกขณะที่พบอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่เคยใช้ เช่น ท่อน้ำ สายไฟฟ้า ฯลฯ วางระเกะระกะอยู่ทั่วบริเวณห้องโถงที่ 1 ทำให้เจ้าหน้าที่ประเมินได้ว่าอาจจะสามารถเข้าไปเก็บกู้อุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าวได้

โดยการประชุมครั้งนี้ทางนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสํารวจถ้ำชาวอังกฤษ ผู้มีบทบาทในการประสานงานและช่วยเหลือในปฏิบัติการเข้าร่วมด้วย และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สรุปข้อมูลจากสภาพปัจจุบันและการสำรวจของนายเวิร์น ว่า น้ำในถ้ำได้หยุดไหลออกจากโถงแรกแล้ว นอกจากนี้น้ำยังได้หยุดไหลเมื่อถึงโถงที่ 2 ระยะทางห่างจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตรมาตั้งแต่เดือน พ.ย.61 ที่ผ่านมาด้วย กระนั้นก็จะยังคงมีแอ่งน้ำภายในถ้ำเป็นบางจุดโดยบางจุดมีความลึกด้วยเช่นกัน

นายกมลไชย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปว่าจะเข้าไปสำรวจถ้ำครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 ม.ค.62 เป็นต้นไป โดยได้กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปจำนวน 35 นายมาจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทหารเรือจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย คณะจากมิสเตอร์เวิร์นที่ชำนาญในพื้นที่มาตั้งแต่ต้น ฯลฯ ทั้งหมดจะประกอบกำลังกันโดยมีภาระกิจแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือจากปากถ้ำ-ห้องโถงที่ 3 ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรกว่า ซึ่งระยะ 1 กิโลเมตรแรกคงจะมีอุปกรณ์ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากเพราะประวัติศาสตร์การช่วยเหลือส่วนใหญ่อยู่ช่วงต้นนี้นี่เองโดยได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยซีล และ ปภ.ทำการบันทึกภาพและบันทึกข้อมูลว่าอุปกรณ์สิ่งของใดอยู่ ณ จุดใดโดยยังจะไม่ให้ขยับเขยื้อนอุปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะภาระกิจจะมีเพียงการสำรวจข้อมูลเท่านั้น ทั้งนี้อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่คงค้างอยู่ภายในจะเป็นท่ออากาศ สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ถังอัดอากาศ ขวดอัดอากาศ ฯลฯ

Advertisement

นายกมลไชย กล่าวอีกว่า จากนั้นจะเข้าไปต่อจากช่วงห้องโถงที่ 3 ไปถึงสามแยกระยะทางอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งก็จะยังคงให้หน่วยซีลเป็นหน่วยงานหลักเพราะมีความชำนาญพื้นที่ด้านในและเคยนำขวดอัดอากาศที่เคยอยู่ด้านในออกมาไว้ที่ห้องโถงที่ 2 และที่ 3 ไปหมดแล้วจำนวนประมาณ 300 กว่าขวดปัจจุบันก็ยังคงอยู่ภายในซึ่งก็จะบันทึกข้อมูลเอาไว้เช่นกัน ทั้งนี้คาดว่าภาระกิจใช้ระยะเวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ส่วนหลังจากนั้นจะปฏิบัติการอย่างไรต่อไปกับอุปกรณ์ต่างๆ นั้นตนต้องรอขออนุญาตจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกรมอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาก่อนต่อไป โดยนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะเดินทางไปกำกับดูแลการปฏิบีติการด้วยตัวเองด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image