“ณัฐวุฒิ” ยัน ไร้รอยร้าวระหว่าง นปช.กับพรรค ทษช. ชี้ เข้ามาด้วยโจทย์เดียวคือต่อต้านเผด็จการ ลั่น พร้อมจับมือคนรุ่นใหม่สู้ ยัน นปช. ยึดมั่นระบอบ ปชต. โยนกก.บห.พรรคตัดสินใจปมแคนดิเดตนายกฯ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง และแกนนำ นปช. พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท สมาชิกพรรค ทษช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกพรรค ทษช. และแกนนำ นปช. ร่วมกันแถลงข่าว
โดยนายณัฐวุฒิกล่าวว่า จากผู้สมัครของพรรคเข้าสมัครลงรับเลือกตั้งแล้ว เมื่อครบเวลาการรับสมัครแล้วจะแถลงสรุปจำนวนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นไม่น่าจะต่ำกว่า 160 เขต จากนั้นการรณรงค์หาเสียงจะเข้มข้นมากขึ้น จะปราศรัยใหญ่ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 เวที และจะมีทีมรณรงค์หาเสียงในแต่ละภาค 7 ชุด กระจายกันลงพื้นที่โดยเอาผู้สมัครบัญชีรายชื่อมาลงพื้นที่ร่วมกับผู้สมัครแบบแบ่งเขตในแต่ละพื้นที่ด้วย เรามีเวลาไม่นานนัก ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันออกแรงช่วยกัน นอกจากนี้ จะมีการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อขยายสาระ และภารกิจข้อมูลข่าวสารของพรรค ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี หลังวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ตนจะโชว์ตารางลงพื้นที่ของพรรค
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวเรื่องความแตกร้าวจากกรณีการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ ตนขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมา ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากแหล่งใด ไม่เป็นข้อเท็จจริง ว่ามีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือถึงขั้นลาออกเพราะไม่พอใจลำดับแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนมาที่นี่เรามีเพียงคำถามเดียวกับพรรคทษช. คือพรรคนี้ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการใช่หรือไม่ เมื่อคำตอบบอกว่า ใช่ พวกตนจึงตัดสินใจเข้ามา เราพูดตั้งแต่วันที่เข้ามาวันแรกว่าเราไม่ได้พกเงื่อนไขอื่นเข้ามา เราไม่ได้เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของพวกเราเอง แต่เรามาเพื่อรับผิดชอบความหวังของของประชาชน ดังนั้น ซึ่งคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะนำพาบ้านเมืองสู่วิถีทางของประชาธิปไตย แล้วรัฐบาลประชาธิปไตยจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ เราเชื่อว่า ทษช. ทำได้จึงมาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ดังนั้น พี่น้องที่ถามพวกตนเข้ามา ขอได้โปรดรับทราบว่าพวกตนเดินหน้า ไม่มีตะกอนในหัวใจ ยืนยันว่าหลักการประชาธิปไตยคือหน้าที่ของพวกเรา และการผนึกกำลังกันระหว่างคนรุ่นใหญ่กับคนรุ่นใหม่จะเป็นคำตอบสำหรับการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับเพื่อนมิตรที่ไม่ได้มาร่วมแถลงในวันนี้ส่วนใหญ่ติดภารกิจ แต่ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งจะได้เห็นครบถ้วน ทั้งนี้ ชื่อน้องๆ บางคนที่อาจถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นคำถาม ชื่อเหล่านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกตน เพราะคู่ต่อสู้ของพวกตนคืออำนาจเผด็จการ คือความยากจนของประชาชน เราจะจับมือกันเดิน จับมือกันสู้
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากที่เป็นพรรค พปชร.เปิดบัญชีรายชื่อ เห็นว่าหลายต่อหลายคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ เป็นนักการเมืองจากพรรคการเมืองเดิม ซึ่งย้อนแย้งกับคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่พูดตลอดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ประชาชนเลือกคนใหม่ เพราะหากเลือกคนเก่าๆ จะมีปัญหาสารพัด และ พล.อ.ประยุทธ์มักจะวิพากษ์วิจารณ์พูดถึงนักการเมืองในแง่ลบอยู่ตลอก แต่บัญชีรายชื่อของพรรคพปชร. 10 รายชื่อแรก ครึ่งหนึ่งมาจากประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกครึ่งมาจากพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ไม่ได้มีรูปลักษณ์ของทางเลือกใหม่ของประชาชนอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์อธิบาย นี่หมายถึงเพื่อสืบทอดอำนาจจะเอาใครมาก็ได้ใช่หรือไม่ และนักการเมืองที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยกล่าวหาว่ามีคดีความ วันนี้กลับกลายเป็นว่าประชาชนจะต้องให้การสนับสนุนหากไปอยู่ในพรรค พปชร.แล้วหรือไม่ แล้วภารกิจที่บอกว่าจะปฏิรูปประเทศไทย จะพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง เป็นเรื่องที่แท้จริงแล้วขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชาใช่หรือไม่ 5 ปีที่ประเทศไทยเสียเวลา และประชาชนทุกข์ทนกับสภาพเศรษฐกิจ ได้เท่านี้แล้ว เป็นบทเรียนที่สังคมไทยต้องสรุปว่าแนวทางเผด็จการไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า ในส่วนของ นปช.มีความคิดเห็นอย่างไรหากนายกฯ เป็นคนที่อยู่นอกพรรค นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ต้องรอให้มีความชัดเจนออกมาก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้คิดว่ากรรมการบริหารจะเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรค ส่วนมีใครอยู่ในรายชื่อบ้างนั้นตนไม่ทราบ เพราะอยู่ที่คณะกรรมการบริหาร ทั้งนี้ จุดยืน นปช. เราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อะไรที่ยืนอยู่บนหลักการนี้แน่นอนว่าประชาชนทั้งประเทศยอมรับร่วมกัน
เมื่อถามถึงกรณีมองอย่างไรกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ไม่ได้ถูกทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีโอกาสน้อยมาก นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับนายจาตุรนต์ แต่ถ้ากรรมการบริหารยังไม่สรุปก็มีมีเวลาถึงวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็ยังมีเวลา ก็ต้องรอถึงที่สุดว่ากรรมการบริหารจะมีมติอย่างไร
เมื่อถามว่าในฐานะแกนนำ นปช.เห็นว่าใครเหมาะสมกับบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะหากพูดไปจะกลายเป็นการชี้นำ ซึ่งตนต้องให้เกียรติกรรมการบริหารทำหน้าที่
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ตอบรับการเป็นนายกฯ มีการวิเคราะห์ว่าเพราะต้องรอดูรายชื่อนายกฯจาก ทษช.ก่อน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไม่รู้ว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ตอบรับเพราะท่านรอดูรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทษช.หรือไม่ แต่เชื่อว่าท่านคงมีเหตุผลของท่าน เพราะท่านบอกยังมีเวลาถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์
เมื่อถามว่า ในฐานะประธานรณรงค์หาเสียง คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรค ควรร่วมหาเสียงด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับบทบาทแต่ละบุคคล พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนายกรัฐมนตรี นายวิษณุก็ห้ามตลอดว่าห้ามหาเสียง
