เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) โดยมีนพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. นายสัมพันธ์ ฤทธิเดช ว่าที่เลขาธิการ กกอ. และนายประสาท สืบค้า ประธาน กกอ. เข้าร่วม ว่า เนื่องจากปัจจุบันจำนวนเด็กลดลง เข้าเรียนมหาวิทยาลัยน้อยลง ซึ่งมหาวิทยาลัยจะต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง กกอ.จะต้องคิดว่าจะนำผ่านประเทศไปในทิศทางไหน โดยต้องทำด้วยความรวดเร็ว จะต้องปลดปล่อยไม่ติดในกรอบเดิมๆ
ด้านนพ.อุดม กล่าวว่า ขณะนี้ต้องการให้ กกอ.มีอำนาจจริงๆ เพราะตามกฎหมายอำนาจนี้อยู่ที่ กกอ.ไม่ใช่ สกอ.เพราะ สกอ.เป็นสำนักงานเลขานุการของ กกอ. และที่ผ่านมา กกอ.ไม่ได้ลงมาทำงานจริงจังและทำอย่างเต็มที่จึงทำให้ดูเหมือน สกอ.ทำหน้าที่แทน ทั้งเสนอเรื่องต่างๆ โดยมี กกอ.เป็นเพียงตรายาง ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดอย่างนั้นอีกแล้ว ฉะนั้นต่อไปกกอ.ต้องไปทุ่มเทและคิดที่จะนำการอุดมศึกษาให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้ได้
นายประสาท กล่าวว่า ทั้ง นพ.ธีระเกียรติ และนพ.อุดม ให้นโยบายว่า กกอ.จะต้องบริหารเชิงรุก จะทำงานตั้งรับแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะการปรับระบบการศึกษาให้ทันสมัย ปัจจุบันต่างประเทศเปิดกว้างเรื่องการศึกษาด้วยระบบออนไลน์ แต่ประเทศไทยยังติดอยู่ที่การกำหนดมาตรฐาน การรับรองคุณวุฒิที่ต้องเข้าเรียนในระบบชั้นเรียนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และต้องเดินหน้าโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ถึงแม้ว่า กกอ.ชุดนี้จะเข้ามาทำงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ไปเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่ตนก็ปวารณาตัวว่าจะทำงานเต็มความสามารถและทำให้ดีที่สุด จะยึดหลักกล้าคิด กล้าทำ กล้านำ กล้าเปลี่ยน และยึดหลักการบริหารต้องเป็นตัวของตัวเอง ที่มีอำนาจตามกฎหมาย ตามกฎกระทรวง และทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ฉะนั้นปัญหาที่ติดเป็นพวงของอุดมศึกษาของประเทศ กกอ.จะพยายามแก้ไข