หมอจุฬาฯ เผยที่ขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์อาจไม่ได้ใช้จริง เหตุหึ่งมีแววล่ม!

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาประโยชน์ทางการแพทย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษ มีมติผ่านร่างกฎหมายลูกนิรโทษผู้ครอบครองกัญชาภายใน 90 วัน ซึ่งมีข้อกังวลว่า ผู้ครอบครองกัญชากลุ่มใต้ดินจะขึ้นมารายงานตัวหรือไม่ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการเพื่อจัดหากัญชาให้ผู้ป่วยได้ต่อไป ว่า ร่างกฎหมายนิโทษผู้ครอบครองกัญชา มีความพยายามจะเอาทุกอย่างขึ้นบก  ซึ่งก่อนหน้านี้ เราคิดว่า จะกระทบแน่ๆ แต่ล่าสุดมีการหารือร่วมกับระหว่างสภาเกษตรกร และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้ง นพ.โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์  พบว่า มีทางออกสำหรับชมรมจิตอาสาใต้ดินที่ช่วยผู้ป่วยในการใช้กัญชา โดยจะดึงชมรมนี้มาอยู่ร่วมกับสภาเกษตรกร เพื่อให้เข้าสู่ระบบได้ แต่ปัญหาตอนนี้ที่ทุกคนต้องคิดคือ กังวลว่า ที่ขับเคลื่อนกันอาจจะไม่ได้ใช้จริง เพราะยังติดเรื่องกฎหมายใหญ่สุด คือ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฯ

“ ปัญหาใหญ่กว่าอีกอย่างคือ จะทราบได้อย่างไรว่า ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ จะใช้ได้จริง เพราะตอนนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์สูงมากถึงความหวาดหวั่นว่า สุดท้ายการคลายล็อกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อาจต้องล่มก็ได้ เนื่องจากผมได้รับทราบมาจากคณะกรรมการวิสามัญ ซึ่งเป็นผู้ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษที่รวมกัญชาด้วยนั้น มีความกังวลว่า หากร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เป็นร่างกฎหมายใหญ่กว่า ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯนั้น  โดยหากร่างประมวลฯ ไม่มีการหยิบโยง หรือบรรจุเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ไว้ในตัวกฎหมายย่อมทำให้ทุกอย่างที่ขับเคลื่อนเรื่องการคลายล็อกกัญชาส่อแววล่มด้วย ดังนั้น ก่อนอื่นเพื่อความชัดเจน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับแม่ ควรมีการเปิดเผยว่า จะมีเรื่องการคลายล็อกกัญชาอยู่ในร่างกฎหมายใหญ่หรือไม่ เพื่อให้ฝ่ายที่เตรียมพร้อมได้เดินหน้าต่อไป ไม่เช่นนั้นการลงทุนต่างๆ คงต้องล้มหมด” นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าโอกาสที่ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดจะบรรจุร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดที่มีการคลายล็อกกัญชาทางการแพทย์เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างติดตามยากมาก จึงอยากให้มีการเปิดเผยความคืบหน้าเช่นกัน เพราะอย่างตนเป็นนักวิจัย ก็มองว่าการคลายล็อกกัญชาเป็นสิ่งจำเป็น เพียงแต่ต้องมีการวางระบบให้ดี อย่างจุดสำคัญหากคลายล็อกจริงๆ ก็ควรมีหน่วยงานกลาง หรือสถาบันควบคุมกัญชากลางของประเทศขึ้นมา เพื่อวางแผนเกี่ยวการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างรอบคอบ ซึ่งประเทศอื่นก็มี และในระดับนานาชาติก็มีองค์กรกลางเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น ประเทศไทยควรมีเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image