มิตซูบิชิ ไทรทัน 2019 มีความลับที่อยู่ข้างใน!? : โดย นายพล

เคยถามกับค่ายรถปิกอัพในบ้านเราว่า ต่อไปจะเอาอะไรมาแข่งกันอีก หลังจากที่ผ่านมางัดกลยุทธ์ออกมาดึงดูดลูกค้าแทบจะทุกวิถีทางกันแล้ว

แต่ทุกสิ่งย่อมมีทางออกเสมอ ถ้าไม่หยุดนิ่ง

นี่คงจะเป็นที่ มิตซูบิชิ ใช้เป็นหลักปรับปรุงรถปิกอัพ ไทรทัน ใหม่ ในรูปแบบบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ หรือการปรับปรุงใหม่ในหลายจุด

ที่ผ่านมารถปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถปิกอัพออกแบบมาเพื่อส่งไปขายทั่วโลก ไม่เฉพาะประเทศไทย

Advertisement

ดังนั้น แนวคิดในการออกแบบจึงทำเป็นโกลบอล หรือมาตรฐานโลก เป็นรถปิกอัพสะท้อนภาพความเป็นตัวตนของค่ายมิตซูบิชิ

มิตซูบิชิ ไทรทัน ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สร้างกระแสตอบรับได้ดี

Advertisement

มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเอาดีไซน์แบบ แอดวานซ์ ไดนามิก ชีลด์ (Advanced Dynamic Shield) เป็นการแต่งหน้าทาปากภายนอกเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และล้ำสมัยขึ้น

มีให้เลือกทั้งหมด 19 รุ่นย่อย พร้อมตัวถัง 3 แบบ ประกอบด้วย ซิงเกิลแค็บ เมกาแค็บ และดับเบิลแค็บ 4 ประตู แต่รุ่นพลัส (Plus) และขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือโฟร์วีล (4WD) เท่านั้น ถึงจะได้ดีไซน์แบบใหม่ ขณะที่รุ่นปกติยังได้หน้าเดิมอยู่

ในรุ่นท็อป คือรุ่น จีที พรีเมียม เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (GT-Premium A/T 4WD) บนตัวถังแบบดับเบิลแค็บ 4 ประตู อุปกรณ์ประกอบด้วย

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ 6 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60 R18

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำตัดกับสีเงิน ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์ พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางฝั่งผู้ขับ

ฝั่งผู้โดยสารเป็นแบบปรับมือ แผงคอนโซลถูกยกมาจากรุ่นเดิม เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 2DIN รองรับ DVD/CD/MP3 มีช่องเสียบ USB มาให้ 3 ตำแหน่ง และมีระบบนำทางให้ในตัว

มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติสามารถปรับแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้ นอกจากนี้ได้เพิ่มช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังไว้เหนือเพดาน จะเป็นการดึงเอาอากาศเย็นด้านหน้ามากระจายด้านหลังอีกที ไม่ใช่เป็นการติดตั้งแอร์เพิ่มด้านหลัง

ผู้โดยสารตอนหลังมีช่องวางของอเนกประสงค์พร้อมกับพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟโดยเฉพาะ 2 ช่อง เหมาะสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้

ห้องโดยสารออกแบบให้ดูกว้างและนั่งสบายขึ้น ตกแต่งวัสดุหนังบริเวณที่ร่างกายต้องสัมผัสบ่อยๆ เช่น บริเวณอุโมงค์เกียร์, แผงประตู และที่วางแขนระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า ให้มีสัมผัสที่นุ่มนวลมีความเป็นรถเก๋งเพิ่มขึ้น

ด้านสมรรถนะการขับขี่ สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซุปเปอร์ ซีเลคต์ โฟร์วีลไดรฟ์ ทู (Super Select 4WD II) ยกมาจากโฉมเดิมแล้ว ยังเพิ่มด้วยปุ่ม ออฟโรด โหมด (Off-Road Mode) ประกอบด้วย 4 โหมด ได้แก่ กราเวล (Gravel) หรือกรวด, มัด/สโนว์ (Mud/Snow) หรือ โคลน/หิมะ, แซนด์ (Sand)
หรือทราย และ ร็อค (Rock) หรือหิน จะมีการปรับการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพและระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เพื่อให้เหมาะสำหรับสภาพถนนแต่ละแบบ

ขณะที่ระบบล็อกเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) มีปุ่มแยกต่างหากออกมาให้เช่นเคย

ด้านระบบความปลอดภัย มาแบบครบเครื่อง ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System-FCM) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงขณะที่มีสิ่งกีดขวาง (Ultrasonic Misacceleration Mitigation System-UMS) ระบบเตือนจุดอับสายตาและเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist-BSW with LCA) ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert -RCTA) ไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam (AHB)

นอกจากนี้ ยังมีระบบกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) แสดงภาพแบบ เบิร์ด อาย วิว บนหน้าจอ ช่วยให้จอดรถในที่แคบสะดวกขึ้น ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ระบบควบคุมการทรงตัว ASC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ATC ระบบเบรก ABS/EBD และ ระบบช่วยเบรก หรือเบรก แอสซิสต์ (Brake Assist) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน HDC และเซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง

เครื่องยนต์ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC ความจุ 2.4 ลิตร บล็อกเดิม ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 181 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดลูกใหม่ จากเดิมแบบ 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดให้เลือก

แม้ว่าจะไม่มีการปรับปรุงสเปกเครื่อง แต่เครื่องบล็อกนี้ก็ให้กำลังเพียงพออยู่แล้ว เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด เพิ่มขึ้นมาช่วยให้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สมูทยิ่งขึ้น และใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลงขณะขับขี่ทางไกล ช่วยประหยัดมากขึ้น

จุดเด่นของไทรทันใหม่ คือการปรับปรุงช่วงล่างให้นุ่มนวลมากขึ้น พร้อมกับอัพเกรดระบบเบรกขึ้น

สรุปแล้ว ไทรทัน บิ๊ก ไมเนอร์เชนจ์ 2019 มีการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ได้แก่ กล้องมองภาพรอบคัน ช่องวางของอเนกประสงค์และพอร์ต USB ด้านหลัง ช่องกระจายความเย็นสำหรับผู้โดยสารหลัง ระบบเบรกใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วงล่างปรับปรุงใหม่ ระบบ FCM ระบบ BSW with LCA ระบบ UMS ระบบ RCTA ระบบไฟสูงอัตโนมัติ และระบบ ออฟโรด โหมด

ราคา ไทรทัน รุ่นซิงเกิล แค็บ 2.5 GL 5MT 524,000 บาท (หน้าเดิม) 2.4 GL 6MT 4WD 654,000 บาท รุ่นเมกา แค็บ 2.5 GL 5MT 579,000 บาท (หน้าเดิม) 2.5 GLX 5MT 621,000 (หน้าเดิม) 2.4 Plus GLX 6MT 689,000 บาท 2.4 Plus GLS 6MT 729,000 บาท 2.4 Plus GT 6MT 776,000 บาท 2.4 Plus GT 6AT 826,000 บาท รุ่นดับเบิลแค็บ 2.5 GLX 5MT 672,000 (หน้าเดิม) 2.4 Plus GLX 6MT 779,000 บาท 2.4 Plus GLS 6MT 819,000 บาท 2.4 Plus GLS 6AT 882,000 บาท 2.4 Plus GT 6MT 873,000 บาท 2.4 Plus GT 6AT 923,000 บาท 2.4 Plus GT Premium 6MT 930,000 บาท 2.4 Plus GT Premium 6AT 983,000 บาท 2.4 GLS 6MT 4WD 935,000 บาท 2.4 GT Premium 6MT 4WD 1,041,000 บาท และ 2.4 GT Premium 6AT 4WD 1,099,000 บาท

สำหรับการทดสอบเส้นทางทั้งทางเรียบ ทางออฟโรด ขึ้นเขาลงเขาที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เข้าใจได้ว่ากลยุทธ์ที่ ไทรทัน ใหม่ งัดเอามาใช้ครั้งนี้ก็คือ การออกแบบรถปิกอัพให้มีความเป็นรถเก๋งมากขึ้น แต่ก็ไม่ละทิ้งความโดดเด่นด้านออฟโรด

เพราะทั้งการปรับช่วงล่าง ให้โช้กอัพใหญ่ขึ้น มีความนุ่มนวลมากขึ้น แต่เกาะถนนมากขึ้น หากไม่ใช่ค่ายมิตซูบิชิที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบช่วงล่าง พิสูจน์ได้จากการแข่งขันแรลลี่ระดับโลกมาอย่างโชกโชน คงไม่สามารถทำแบบนี้ได้

นอกจากนี้ไทรทันใหม่ ยังใส่อุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยต่างๆ

ย่อมเป็นสิ่งยืนยันถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ ไทรทัน ใหม่ เล็งเอาไว้ก็คือ ลูกค้ากลุ่มรถเก๋ง

เพราะในปัจจุบัน มิตซูบิชิไม่มีรถเก๋งออกจำหน่าย หลังจากรถเก๋ง มิตซูบิชิ อีเอ็กซ์ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

จึงจำเป็นต้องพัฒนารถปิกอัพให้ครอบคลุมไปถึงลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย โดยไม่กังวลว่าจะสูญเสียความเป็นรถปิกอัพ หรือรถกระบะ ที่เคยมีมาในอดีตไปหรือไม่

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image