เช้าวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ที่แฟนภาพยนตร์ในบ้านเราจะได้ลุ้นการประกาศผลรางวัลอะคาเดมี อะวอร์ดส์ หรือ ออสการ์ครั้งที่ 91 โดยงานจะมีขึ้นที่โรงละครดอลบี เธียเตอร์ นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ค่ำวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น โดยปีนี้ โรมา (Roma) ภาพยนตร์ขาวดำ ผลงานกำกับของ อัลฟอนโซ กัวรอน ผู้กำกับชาวเม็กซิกันวัย 57 ปีเป็นผลงานที่ถูกกล่าวขวัญถึง และ “ถูกคาดหวังมาก”ว่าจะคว้ารางวัลใหญ่ติดมือกลับบ้านโดยเฉพาะ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม หลังจากกวาดรางวัลใหญ่มาแล้วจากหลายสถาบันทั้งเวทีลูกโลกทองคำ และบาฟต้าของอังกฤษ และมีชื่อเข้าชิงออสการ์มากที่สุดถึง 10 สาขารางวัล เท่ากับภาพยนตร์เรื่องเดอะ เฟเวอร์ริท (The Favourite)
ในบทความของเอพี ซึ่งได้สัมภาษณ์ กาบรีลา โรดริเกซ โปรดิวเซอร์หญิงวัย 38 ของโรมา ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากลาตินอเมริกาเรื่องแรกที่ติดเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ เปิดใจว่า เธอรู้จักผลงานของอัลฟอนโซ กัวรอน ดีว่ามันดี และพิเศษอย่างไร เพราะรู้จัก และเคยร่วมงานกันเกือบ 15 ปี แต่เธอไม่เคยคิดว่า โรมาจะประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้
“ฉันคิดว่า มันจะได้รับความสนใจและสร้างอิมแพคในประเทศลาติน อเมริกา แต่ไม่คิดว่ามันจะไปไกลทั่วโลก และได้รับการยอมรับบนเวทีออสการ์และงานประกาศผลรางวัลของสถาบันต่างๆ อย่างที่ได้รับอยู่ตอนนี้ ”
โรดริเกซ เล่าว่า “ฉันไม่เคยสงสัยว่า หนังเรื่องนี้(โรมา)มันยอดเยี่ยมมาก แต่ที่ฉันประหลาดใจมากก็คือการที่ได้เห็นผู้คนจากทุกหน ทุกแห่งทั่วโลก ไม่ว่าชนชั้นใดในสังคม ไม่ว่าเชื้อชาติใดต่างเชื่อมโยงถึงหนังเรื่องนี้กัน ”
ในฐานะที่โรมาได้เข้าชิงถึง 10 รางวัล รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่ยังมีลุ้นอย่างมาก โรดริเกซ จึงจะเดินทางไปร่วมงานออสการ์แน่นอน ซึ่งหลายคนในวงการเชื่อว่า เธอมีโอกาสที่จะลุ้นรางวัลใหญ่ หลังจากที่นับแต่เปิดตัวออกฉายครั้งแรกในงานเทศกาลหนังเมืองเวนิส เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2561 โรมาก็ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ และได้รับรางวัลใหญ่จากอีกหลายสถาบันรวมทั้งรางวัลลูกโลกทองคำภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม
“ความจริงก็คือในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่ไม่ใช่แค่เป็นผู้หญิง และเป็นคนลาติน นี่เป็นสิ่งที่สุดเหลือเชื่อ สำหรับฉันรู้สึกตื้นตันใจมากที่คนในวงการบันเทิงด้วยกันที่ฉันชื่นชม นับถือยอมรับในผลงานของเรา ”
โรมา เป็นภาพยนตร์ขาวดำ ที่สร้างจากความทรงจำในวัยเด็กของกัวรอน ที่เขาเติบโตในเม็กซิโก ซิตี้ ช่วงยุค 1970s ที่บอกเล่าผ่านตัวละครสาวใช้ในครอบครัวหนึ่ง ซึ่งโรดริเกซ เล่าว่าเป็นการถ่ายทำแบบไม่มีสคริปต์ หรือบท และนักแสดงส่วนใหญ่ล้วนเป็นนักแสดงที่ไม่เคยมีประสบการณ์เล่นภาพยนตร์มาก่อน ขณะที่ทั้งโรดริเกซและ กัวรอน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังฤษ ต่างไม่เคยทำงานในเม็กซิโก มาก่อนเลย ดังนั้นเธอจึงต้องพึ่ง นิโคลัส เซลิส โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “Desierto ” ที่กำกับโดย โจนาส กัวรอน ลูกชายของอัลฟอนโซ กัวรอนให้คอยช่วย
โรดริเกซ เล่าถึงการทำงานในฐานะโปรดิวเซอร์ว่าเป็นหน้าที่ที่ฟังดูดี ที่ก็คล้ายกับงาน”ผู้จัดการทั่วไป”นั่นเองที่ต้องคอยประสานงานกับฝ่ายต่างๆ คอยแก้ปัญหาที่ไม่คาดฝัน ซึ่งจากประสบการณ์ของเธอพบว่าต่อให้มีการเตรียมการณ์มาดีเพียงใด ก็มักมีปัญหา และเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาให้แก้เสมอ
แต่ในโรมา สิ่งที่ท้าทายเธอที่สุดก็คือ การทำงานของกัวรอน ที่เธอเล่าว่า “เขาเป็นคนที่เรียกร้องสูงมาก และขยันมาก เขาจะเป็นคนแรกที่มาถึงกองถ่าย และกลับเป็นคนสุดท้าย เป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด และเป็นคนที่คอยกระตุ้นให้ทุกคน ทำงานได้เต็ม 100 % ไม่มีคำว่า ไม่ได้ สำหรับเขา ”
โรดริเกซ เริ่มทำงานกับ กัวรอนเมื่อเกือบ 15 ปีที่แล้ว หลังจากจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัยซัฟฟอล์ก ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา เธอเคยฝึกงานกับกัวรอนในนิวยอร์ก จากนั้น 2-3 เดือนต่อมา เธอก็ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว และย้ายตามกัวรอนไปอยู่ที่ลอนดอนเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Children of Men ” เธอยังทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ใน “Gravity” และรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เต็มตัวใน โรมา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในงานประกาศรางวัลออสการ์ โรดริเกซ บอกว่า “ถ้าฉันได้รางวัล นี่ก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจแก่ เด็กรุ่นใหม่ ผู้หญิง และคนลาตินให้รู้สึกว่า พวกเขาก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในงานออสการ์ ฉันก็คิดแค่ว่า มันจะสนุกแค่ไหนที่เราได้ไปร่วมงาน และพวกเราก็ต่างรู้สึกถึงชัยชนะที่ได้รับแล้ว “
