ในยุคก่อนหน้าโน้น ความสามารถพิเศษของมนุษย์พัฒนาให้เกิดขึ้นในตัวมนุษย์เอง
ใครอยากได้อยากมีอะไรก็พัฒนาให้เกิดขึ้นในตัวเองของคนผู้นั้น
ชีวิตมนุษย์ในยุคโน้นจึงมี “นัก” อันหมายถึงผู้มีความสามารถในอย่างใดอย่างหนึ่งมากมายหลาย “นัก”
และคนรุ่นต่อมาอยากจะให้ตัวเองมีความสามารถที่จะเป็น “นัก” อะไรก็ไปเรียนรู้จากคนที่เป็น “นักอย่างนั้น” อยู่แล้ว ต่อยอดพัฒนาความสามารถในตัวมนุษย์กันไป
ความสามารถพิเศษที่มนุษย์พัฒนาให้เกิดขึ้นในตัวเองได้มีหลายระดับ ตั้งแต่ความวิเศษถึงขั้น “ฌานสมบัติ” เกิด “อภิญญา” เป็นผู้หยั่งรู้ และมีฤทธิ์ในเรื่องต่างๆ กันขึ้นจากการฝึกจิตให้เป็นสมาธิอย่างเข้มข้น
จนถึงการเรียนรู้สภาวะธรรมชาติ เพื่อปรับตัวเองให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้อย่างปลอดภัย กลมกลืน หรือใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินชีวิต หรือประกอบอาชีพ อย่างเช่น ชาวประมงศึกษาเรื่องสีของฟ้า เพื่อประเมินความรุนแรงของพายุ ชาวนาดูเมฆ และทำนายฝนจากสภาวะอากาศ
ทุกอาชีพจะมีความรู้เฉพาะที่ถ่ายทอดเรียนรู้จากการสะสมประสบการณ์
หากเคยอ่าน หรือชมเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตของ “อินเดียนแดง” จะพบว่ามนุษย์มีความสามารถที่จะอ่านธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง
หรือคำสอนของศาสนา ลัทธิทางตะวันออกที่พูดถึงชีวิตที่สรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียว เชื่อมโยงเข้าหากัน
เหล่านี้ล้วนเป็นการพัฒนาให้ความรู้ และความสามารถมาอยู่ในตัวมนุษย์ และมนุษย์พึ่งพาตัวเองได้จากการศึกษาเรียนรู้นั้น
และความรู้เหล่านี้ทำให้มนุษย์ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันนี้ โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ทิศทางการพัฒนาไปอีกแบบ
จากที่มนุษย์พัฒนาเพื่อให้ความสามารถเกิดขึ้นกับความรู้ความคิด และศักยภาพในอวัยวะส่วนต่างๆ ของตัวเอง
ถึงวันนี้ปรับสู่การพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งหมายถึงการคิดสร้างเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้มาอำนวยความสะดวก ความสามารถพิเศษไม่ได้อยู่ในความรู้ ความคิด ที่เป็นระบบสมอง หรืออยู่กับกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นของมนุษย์อีกแล้ว แต่ไปอยู่กับสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อแทนตัวมนุษย์แอง
เพื่อต้องการจะมีความสามารถพิเศษอะไรสักอย่าง มนุษย์สามารถหาอุปกรณ์เครื่องใช้ หรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ มาจัดการให้
ใครที่สามารถหาเครื่องไม้เครื่องมือที่พิเศษได้ เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีความสามารถสูงได้มากกว่าใคร คนนั้นจะเป็นผู้ที่เหนือกว่าคนอื่น
เพียงแต่ว่าเพราะความสามารถพิเศษนี้ เป็นเรื่องที่ใครจะมีได้ต้องซื้อหาเอา ใครมีกำลังที่จะซื้อหาได้มากกว่า จะได้รับการสนองตอบในสิ่งที่มีความวิเศษกว่า
ชีวิตมนุษย์ที่เคยช่วยเหลือกันเพื่อฝึกความรู้ความสามารถให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ต่างคนต่างพยายามถ่ายทอดวิชาความรู้ประสบการณ์ให้คนรุ่นต่อไป อันเป็นการ “สร้าง-สะสม-พัฒนาต่อยอด” ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีความสามารถที่อยู่ในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
กลับกลาย “มุ่งที่จะหาเงิน” เพื่อซื้อเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย เพื่อให้เกิดความได้เปรียบคนอื่น
ความเปลี่ยนแปลงจากการพยายามถ่ายทอด เพื่อรักษาไว้ มาเป็นความสามารถที่จะเป็นเจ้าของเพื่อควบคุมให้เกิดความได้เปรียบ
ความสามารถพิเศษที่เคยอยู่กับสมอง กล้ามเหนือ เส้นเอ็น ของมนุษย์
ประสบการณ์และการเรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่นทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ยิ่งใหญ่
ความยิ่งใหญ่ที่เกิดด้วยการมีอยู่ซึ่งความสามารถพิเศษ
วันนี้ความสามารถพิเศษนั้นถูกถ่ายโอนไปให้สิ่งประดิษฐ์มากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์เลิกสนใจที่จะสร้างความสามารถพิเศษให้เกิดขึ้นกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะสามารถใช้ความวิเศษเหล่านั้นได้จากสิ่งประดิษฐ์ที่ซื้อหามา
โดยไม่ได้ตระหนักว่า
ความสามารถพิเศษอันเป็นปัจจัยทำให้มนุษย์ยิ่งใหญ่นั้น จะไม่มีเหลือในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่จะถูกถ่ายโอนไปยังสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ แทน
วันที่มนุษย์สูญเสียความยิ่งใหญ่จึงใกล้เข้ามาทุกที
หากติดตามให้ดี สิ่งประดิษฐ์ต่างสร้างสิ่งประดิษฐ์อื่นขึ้นมาครองความสามารถพิเศษโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่ “ความสำคัญของมนุษย์” หายไปเรื่อยๆ