ภายหลังเพจเฟซบุ๊กน้องพลอย ยลฤดี ปิยะทัต Ploy Yonladee Phiyatat เด็กหญิงไร้สัญชาติ แชร์เรื่องราวขอโอกาสไปแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา แต่เกิดปัญหาเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ ข้อความระบุว่า
“บทความที่พลอยจะเขียนต่อไปนี้เปี่ยมไปด้วยพลังของความหวัง”
สวัสดีค่ะ หนูชื่อ พลอย ยลฤดี เป็นเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดระนอง เกิดในประเทศไทย แต่รัฐยังไม่ได้รับรองให้เป็นสัญชาติไทย หรือพูดง่ายๆ ก็คือพลอยเป็นเด็กไร้สัญชาติ ซึ่งตัวพลอยใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยโดยมีความหวังมาโดยตลอดว่าจะมาสร้างชาติ และพัฒนาประเทศไทยในแบบของพลอย พลอยทุ่มเทเวลาของพลอยในวัยนี้กับการศึกษา มีเป้าหมายที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และพลอยก็โชคดีที่ได้โอกาสแสดงความสามารถของพลอยมาโดยตลอด พลอยได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม ใช่แล้วค่ะ พลอยเป็นเด็กกิจกรรมเลยก็ว่าได้ พลอยแข่งการพูดสุนทรพจน์ในภาคภาษาอังกฤษ (speech contest) มาตั้งแต่ ป.1 ซึ่งในตอนนั้นพลอยไม่ได้รับรางวัลอะไรเลยจากการแข่งขัน แต่พลอยยังคงแข่งขันมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่แข่งไม่ว่าเป็นการแข่งขันใดก็ตามพลอยมีความพยายาม และตั้งใจเต็มที่เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเสมอ
#แต่แล้วโอกาสดีของพลอยก็มาถึงแบบไม่คาดคิด เมื่อพลอยถูกเชิญให้ไปเข้าร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ สำหรับโรงเรียนโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ในผลงานที่ชื่อว่า เครื่องคัดแยกขวดอัตโนมัติ เริ่มแรกแข่งขันในรอบระดับภาค ที่โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน จังหวัดพังงา โดยทีมได้ผ่านเข้ารอบไปแข่งขันในระดับประเทศ และได้โอกาสไปแข่งต่อระดับโลก ซึ่งโครงการนี้มีชื่อว่า “Genius Olympiad” เป็นโครงการเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ก่อตั้งและบริหารโดย Terra Science and Education ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 มิ.ย.ในการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ ปัญหาของพลอยคือพลอยไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เนื่องจากเป็นบุคคลไร้สัญชาติ ทาง ดร.แจงจากสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงให้โจทย์กับอาจารย์สิทธิพงศ์ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ส่งเข้าประกวดว่ามีสองทางเลือกคือให้พลอยพิสูจน์สัญชาติไทยแล้วทำพาสปอร์ตออกนอกประเทศไปแข่งหรือไม่ก็ให้พลอยถูกตัดสิทธิออกจากรายการ เพื่อให้ทีมยังคงไปแข่งต่อในประเทศอเมริกา แต่พลอยเองก็สู้ อยากจะไปแข่งในรายการนี้ซึ่งได้ยื่นขอ T.D. และขอสัญชาติไทยตามกฎข้อที่ 4 ในเรื่องของทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ แต่ทางปลัดอำเภอได้แจ้งกับพลอยว่า T.D. ของพลอยไม่สามารถยื่นขอได้แต่จะส่งให้กระทรวงกลาโหมเพื่อให้ผู้มีอำนาจตัดสินต่อไปทำให้เอกสารของพลอยถูกส่งไปอย่างล่าช้า ซึ่งเอกสารเดินทางของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะถูกส่งภายในวันที่ 1 พ.ค. แต่ด้วยพลอยมีเวลาน้อยในการดำเนินเรื่อง ทำให้ไม่สามารถส่งเอกสารได้ในเวลาที่กำหนดซึ่งตอนนี้พลอยกำลังจะถูกตัดสิทธิออกจากการแข่งขัน #แต่พลอยและทุกคนยังมีความเชื่อว่าต้องมีสักทางที่จะทำให้พลอยได้ไปแข่งขันจนถึงตอนนี้
พลอยขอขอบคุณครอบครัวที่ทำให้พลอยเป็นพลอยในวันนี้ ที่เลี้ยงดูพลอยอย่างดี และสะพานให้พลอยเสมอมาค่ะ ขอขอบคุณอาจารย์และโรงเรียนที่ให้โอกาสกับพลอยมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแข่งขัน การอบรมสั่งสอนพลอย ขอขอบคุณอาจารย์ปุ๊กกี้ที่เป็นแม่บุญธรรมของพลอยให้การสนับสนุนและดูแลพลอยในทุกๆ เรื่องจนถึงตอนนี้ ขอบคุณจังหวัดที่ดำเนินเรื่องให้พลอย ขอบคุณอาจารย์จากบางกอกคลินิกที่คอยช่วยเหลือพลอยและทำให้พลอยกล้าที่จะออกมาพูดในวันนี้ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจพลอยเสมอมา #ด้วยรัก
ต่อมา นายหม่อง ทองดี อดีตแชมป์เครื่องบินกระดาษที่เคยโด่งดังเมื่อสิบกว่าปีก่อน เนื่องจากเป็นคนไทยไร้สัญชาติ ได้แชร์โพสต์นี้ออกไป พร้อมวอนหน่วยงานและสื่อมวลชนช่วยกันติดตาม และขอเป็นกำลังใจให้น้องพลอยไปสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศในเวทีโลก โดยระบุว่า
“#เพื่อสิทธิของน้องพลอย #เพื่อสิทธิเด็กไร้สัญชาติ #เพื่องโครงการโรงเรียนสีขาวครูพี่หม่อง เมื่อไหร่ปัญหานี้จะหมดไป น้องพลอย เด็กเก่ง จ.ระนอง (ไร้สัญชาติ) อาจถูกตัดสิทธิแข่งขันในเวทีโลก จะซ้ำรอยผมไหม วอนทุกหน่วยงาน-สื่อช่วยด้วยครับ และช่วยเป็นกำลังใจให้น้องพลอยได้ไปทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยนะครับ”
จากนั้นเพจดัง Drama-addict ได้แชร์ข่าวนี้ออกไป กระทั่ง นายรักไทย บูรพ์ภาค อาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้แสดงความคิดเห็นพร้อมกับยินดีรับรองและสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ล่าสุด นายรักไทยได้อัพเดตข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งระบุว่า ติดต่อน้องพลอย ยลฤดีได้แล้ว เบื้องต้น แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับทริปดังกล่าว และตนยินดีสนับสนุน รวมทั้งการรับรองให้กับสถานทูตสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตนเองเป็นบุคคล 2 สัญชาติ จึงยินดีรับรองให้ ตลอดจนประสานกับหน่วยงานที่น้องพลอยไปแข่งขันที่อเมริกาเพื่อออกหนังสือรับรองเป็นการด่วน ทั้งนี้ น้องพลอยขอปรึกษากับทางอาจารย์และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก่อน และจะแจ้งให้นายรักไทยรับทราบอีกครั้ง
