นายคริสโตเฟอร์ ธีม รองผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการภาคเอกชน ธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบีได้ลงนามสัญญาเงินกู้มูลค่า 9.9 พันล้านบาทหรือประมาณ311 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการก่อสร้างและดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพฯโดยเอดีบีได้จัดสรรเงินกู้จำนวน2 รายการ แต่ละเงินกู้มีมูลค่า4.95 พันล้านบาทหรือประมาณ156 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ประกอบด้วย3 บริษัท ได้แก่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์จำกัด(มหาชน) บริษัทซิโน–ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่นจำกัด(มหาชน) และบริษัทราชกรุ๊ปจำกัด(มหาชน) เพื่อดำเนินการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายสีชมพูและสายสีเหลืองโดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูภายใต้การดูแลของ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด จะดำเนินการเดินรถเริ่มจากเขตมีนบุรีกรุงเทพฯ–แครายนนทบุรีโดยมีระยะทางยาวประมาณ34.5 กิโลเมตร ในขณะที่สายสีเหลืองซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เริ่มต้นที่สถานีลาดพร้าว กรุงเทพฯและสิ้นสุดลงที่สถานนีสำโรงสมุทรปราการ รวมระยะทางทั้งสิ้น30 กิโลเมตร โดยการก่อสร้างและการดำเนินงานของทั้งสองโครงการเป็นการต่อยอดจากโครงสร้างรถไฟฟ้าเดิม5 สายที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย
“การสนับสนุนของเอดีบีครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการจัดสรรเงินลงทุนให้กับภาคการขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าของไทยและช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งมวลชนกรุงเทพให้มีประสิทธิภาพในราคาประหยัดเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากร” นายธีมกล่าว
นายเทอเรนซ์ซีเค คง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอดีบีให้ความช่วยเหลือในฐานะผู้ให้เงินกู้ที่สามารถจัดหาเงินกู้ระยะยาวเพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารกระแสเงินสดและช่วยลดความเสี่ยงจากการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าในระยะเริ่มต้นของโครงการนอกจากนั้นยังจะช่วยให้โครงการประสบความสำเร็จและกลายเป็นขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
